ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น การแข่งขันก็สูงตามขึ้นไปด้วย ผู้ให้บริการ 3จี ต่างยกโปรโมชั่นมาดึงดูดใจลูกค้า ไม่เว้นแม้แต่ 3 จี มาย ก็เร่งออกโปรโมชั่นมาดึงลูกค้าเข้าระบบ นายสมยศ อุดมโชคไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริการลูกค้ารายย่อย สายงานการตลาด บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เล่าว่า กสท ได้เตรียมแผนกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อให้บริการ 3จี มาย (3G my) เพื่อเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ให้กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ จะการเน้นการทำตลาดทั้ง ดาต้า และคอนเทนท์ มากขึ้น ด้วยการตอกย้ำความเป็นผู้นำโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง 3จี ที่มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมมากที่สุดทั่วประเทศ ด้วยงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อผลิตโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่จะมีการแพร่ภาพยนตร์โฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ พร้อมโปรโมชั่น ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมการตลาดในพื้นที่อย่างต่อเนื่องโดยจออกอากาศปลายเดือนมี.ค.นี้ “ปัจจุบันเรามีลูกค้า 3 จี อยู่ที่ 1.8 แสนราย รายได้ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นระบบรายเดือน (โพสต์เพด) จำนวน 1.3 แสนราย และมีอัตราค่าบริการเฉลี่ยต่อคนต่อเดือน (อาปู้) อยู่ที่ 500 บาท ในขณะที่ลูกค้าแบบเติมเงิน (พรีเพด) อยู่ที่ 4 หมื่นราย มี อาปู้ อยู่ที่ 120 บาท ส่วนใหญ่จะใช้งานดาต้า เป็นหลัก โดยตั้งเป้าสิ้นปีจะมีลูกค้าเพิ่มเป็น 7 แสนราย และมีรายได้ 2,500 ล้านบาท” จากการที่เป็นผู้นำโครงข่าย ขณะนี้ กสท มีโครงข่ายเพื่อให้บริการอยู่ที่ 13,500 สถานีฐาน ในปีนี้จะขยายอีก 500 สถานีฐาน เป็น 14,000 สถานีฐาน ส่งผลให้ครอบคลุมพื้นที่ 90% ของประเทศไทย จะทำให้เป้าหมายจำนวนผู้ใช้บริการปี 58 เป็น 1,008,000 เลขหมาย แบ่งเป็นรายเดือน 368,000 ราย เติมเงิน 640,000 ราย และมีรายได้รวม 3,632 ล้านบาท นอกจากการขยายโครงข่ายแล้ว กสท จะขยายและพัฒนาจุดให้บริการในรูปแบบของแคทชอป (CAT Shop) และช่องทางเติมเงิน อีก 250 แห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการมากขึ้น และจะร่วมมือกับพันธมิตร ตัวแทนจำหน่าย บริการแบบเติมเงิน ขยายช่องทางการเติมเงินโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ด้วย โดย กสท มีแผนจะขยายช่องทางเติมเงิน ภายในไตรมาส 1 โดยเน้นออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการมากขึ้น ผ่านทางธนาคารชั้นนำต่างๆ เช่น ธนาคารกรุงไทย กรุงศรี ไทยพาณิชย์ กสิกร รวมถึงร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และ ห้างเทสโก้ โลตัส โดยผู้ใช้บริการสามารถเติมเงินได้ตั้งแต่ราคา 10 บาทถึง 1,000 บาท “จุดเด่นของ กสท คือความได้เปรียบในด้านความเป็นเจ้าของโครงข่ายที่มีพื้นที่ให้บริการ 3จี ครอบคลุมมากที่สุด ทำให้สามารถบริหารจัดการในเรื่องของการพัฒนาโครงข่าย ควบคู่ไปกับการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ 3จี มาย มีคุณภาพสัญญาณที่เหนือกว่า ทั้งวอยซ์ (voice) และดาต้า (data) โดยเฉพาะการใช้งานดาต้า ที่ให้ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลสูงสุดถึง 42 เมกะบิต (Mbps)” สำหรับ 3จี มาย มีโปรโมชั่นให้ผู้ใช้บริการได้เลือกหลากหลายตามลักษณะการใช้งาน ทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้บริการ มาย แบบเติมเงิน ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.56 พร้อมแพ็กเกจโปรโมชั่นการโทรและอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าทั่วไปด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะไม่เอื้ออำนวย ผู้ให้บริการทุกรายจะค่อนข้างนิ่ง กสท มองวิกฤตเป้นโอกาส ต้องแยกประเด็นทางสังคมกับประเด็นทางด้านเทคโนโลยี ถ้า กสท ไม่ทำอะไรก็สู้รายอื่นไม่ได้ เพราะการทำตลาด 3 จี เมืองไทยรุกหนัก “กสท มีทั้งโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ลูกค้าจะโทรไปต่างประเทศในราคาที่ถูก จะมีโปรโมชั่นในกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งตอนนี้ในองค์กรให้โทรศัพท์กับพนักงาน เป็นจุดหนึ่งที่จะเข้าไปตีตลาด โดยปีนี้จะเจอะกลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มพลังงานมากขึ้น” การที่ กสท เป็นหน่วยงานที่ต้องผูกติดกับรัฐบาล การจะทำการตลาดอะไรซักตัวต้องยุ่งยากกว่าเอกชน และยิ่งตอนนี้เอกชนเดินหน้าโปรโมชั่น 3 จี ไปนานนับปีแล้ว หวังว่าแผนการตลาดที่จะออกมาปลาย มี.ค.นี้ จะโดนใจและดึงดูดลูกค้าเข้าระบบได้ไม่มากก็น้อย กัญณัฏฐ์ บุตรดี kanyanat25@gmail.com             

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กสท ทุ่ม 200 ล.ปัดฝุ่น “มาย” สู้ศึก 3จี

Posts related