นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาลงไปจนถึงปี 58 เนื่องจากแรงกดดันด้านนโยบายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ยังคงออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่มีผลให้ทองคำปรับลดลงเพราะการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการเงินส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น รวมถึงต้องจับตาการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่อาจปรับขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งจะกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงถึงระดับ 1,100 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 17,000 บาท “ราคาทองคำปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับต้นทุนเพราะราคาปรับตัวลดลงตอบรับกระแสข่าวมากกว่าความเป็นจริง แต่อย่างไรก็ตามถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อทองเพื่อสะสมในระยะยาว แต่ต้องยอมรับว่าราคาอาจไม่หยุดนิ่งเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งยังมีความผันผวนในหลายด้านในระยะต่อไป” สำหรับปัจจัยที่จะช่วยส่งผลเชิงบวกในกับราคาทองคำในช่วงเดือน ก.ย. ได้แก่การซื้อขายตามเทศกาล ซึ่งในช่วงไตรมาส 3 จะใกล้เทศกาลสำคัญของอินเดียจึงทำให้อุปสงค์ตามช่วงเทศกาลเพิ่มมากขึ้น และปัญหาการสู้รบในตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออกที่ยังไม่คลี่คลายลง จะสามารถช่วยผลักดันราคาทองคำได้เป็นระยะ แต่ในขณะเดียวกันทิศทางเงินดอลล่าร์แข็งค่า และความผันผวนของค่าเงินบาทรวมทั้งความเข้มงวดของนโยบายการเงินในหลายประเทศที่เพิ่มมากขึ้นยังเป็นแรงกดดันสำคัญ 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ข่าวร้าย ทองคำขาลงถึงปี 58

Posts related