นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานครเปิดเผยหลังเดินทางมายื่นหนังสือขอขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่แก่ พล.อ.อ.ประจินจั่นตอง รมว.คมนาคม และผบ.ทอ.โดยมีตัวแทนมารับมอบหนังสือแทนว่า ขอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ว่าควรปรับขึ้นหรือไม่ และขึ้นในอัตราเท่าไรให้เสร็จภายใน 1 เดือน หลังจากไม่ได้ขึ้นมาตลอด10 ปี โดยผู้ขับรถแท็กซี่เสนอขอขึ้นค่าโดยสารเพื่อให้ครอบคลุมกับค่าเชื้อเพลิง เช่ารถค่าครองชีพที่สูงขึ้น และเป็นการช่วยแก้ปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารในระยะยาวอีกด้วย ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการหารือกันไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยราคาที่ผู้ขับแท็กซี่เสนอเบื้องต้นไม่ร่วมกับการขึ้นค่าก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจีในอนาคต เห็นตรงกันว่าเริ่มต้น 1 กม.แรก ที่ 35 บาทเท่าเดิม แต่ค่าโดยสารตามระยะทางเฉลี่ยผู้ขับขอให้ขึ้น 10-12 บาทต่อกม. แต่ในส่วนราชการเห็นว่าให้ขึ้นได้อีก10 % เช่น  กม.ที่ 2-12 จะคิดค่าบริการ 5 บาทต่อกม.จากปัจจุบัน 4.50 บาท กม.ที่ 12-20 กม.ละ5.50 บาท จากปัจจุบัน 5 บาทต่อกม.กม.ที่ 20-40 กม.ละ 6 บาทจากปัจจุบัน 5.50 บาท ส่วนระยะไกลให้ปรับเป็น 7.50-9.50 บาท  ส่วนค่าโดยสารในช่วงรถติด ผู้ขับขอให้ขึ้นราคาจากปัจจุบัน คิดนาทีละ1.50 บาท เพิ่มเป็น 2.50 บาท เพราะตอนนี้คนขับแท็กซี่มีต้นทุนเฉลี่ยกว่า 100บาทต่อชั่วโมง หากใช้อัตราเดิมจะมีรายได้แค่ 90 บาท  แต่หากเป็นอัตราใหม่จะสอดคล้องกับต้นทุนมากขึ้น และยังช่วยแก้ปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปในเมืองหรือเส้นทางรถติดได้   “การขอขึ้นราคาที่เสนอไปนี้เป็นการขอขึ้นในส่วนต้นทุนเดิมแต่หากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลพิจารณาขึ้นค่าโดยสาร ร่วมกับการขึ้นค่าก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไปด้วย เพราะการขึ้นค่าแท็กซี่แต่ละครั้งทำได้ยากจึงอยากให้พิจารณาไปทีเดียวเลยแต่ถ้าไม่ได้ ในอนาคตหากรัฐบาลขึ้นเอ็นจีวีเมื่อไร ก็ขอให้พิจารณาค่าโดยสารเพิ่มหรือหามาตรการเยียวยาช่วยผู้ขับแท็กซี่ นอกจากนี้ยังต้องการให้รัฐบาลช่วยจัดระบบพัฒนารถแท็กซี่มิเตอร์เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและพิจารณาต่ออายุการใช้รถแท็กซี่มิเตอร์ให้คุ้มค่า”   

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สหกรณ์ฯทวงคมนาคม ขอขึ้นค่าแท็กซี่

Posts related