นายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค. 57 รัฐบาลจะออกมาตรการให้เงินอุดหนุนชาวนารายย่อยเพื่อใช้เป็นต้นทุนในการเพาะปลูกโดยยืนยันว่าการให้เงินอุดหนุนดังกล่าวไม่ได้เป็นโครงการประชานิยมโดยแหล่งเงินจะมาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ว่าจะให้เงินอุดหนุนชาวนาต่อไร่เป็นเงินจำนวนเท่าไรซึ่งเป้าหมายของการให้เงินอุดหนุนให้นำเงินไปใช้เป็นช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต้นทุนการปลูกค่าเช่านาเป็นต้น โดยชาวนาที่จะได้รับเงินจะดูจากพื้นที่การเพราะปลูกไม่เกินจำนวนกี่ไรถึงได้รับเงิน"การให้เงินอุดหนุนชาวนาไม่ได้เป็นการแจกเงินแบบประชานิยมที่ให้หรือทำกันทั่วไปแต่ครั้งนี้เป็นการให้เงินที่มีการพิจารณาให้กับชาวนารายย่อยเท่านั้นไม่ได้ให้ชาวนาที่รวยซึ่งเรื่องนี้ผมและ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกันแล้วและเห็นตรงกันว่าเราจะไม่ช่วยเหลือเกษตรกรไม่ได้แต่ต้องช่วยทุกทางเพื่อให้เกิดความยั่งยืนมากที่สุด" นายสมหมาย กล่าวนอกจากนี้รัฐบาลยังจะเร่งดำเนินการมาตรการจ่ายเงินภาษีให้กับผู้มีรายได้น้อย (NegativeIncome Tax : NIT) ให้ได้ภายในปีงบประมาณ 2558 แม้ว่านักวิชาการบางส่วนจะไม่เห็นด้วยแต่กระทรวงการคลังเห็นว่าในทางปฏิบัติถือเป็นเรื่องที่ดีไม่มีการสูญเสียระหว่างทาง และเป็นการดึงคนเข้าสู่ระบบภาษีโดยจากการประมาณของกระทรวงการคลังคาดว่าจะใช้เงินถึง 5 หมื่นล้านบาทซึ่งจะหักจากภาษีที่กรมสรรพากรเก็บได้ก่อนที่จะนำส่งให้คลังนายสมหมาย กล่าวว่า จากการดำเนินการทั้ง 2 มาตรการรัฐบาลคาดว่าจะต้องใช้เงินปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทแต่ไม่ได้เป็นการใช้จากเงินงบประมาณโดยตรง เพราะการให้เงินอุดหนุนชาวนาใช้เงินจากธ.ก.ส. และรัฐบาลจ่ายชดเชยอุดหนุนให้ ธ.ก.ส. ในภายหลัง ส่วนการจ่ายคืนเงินภาษีเป็นการหักภาษีจากกรมสรรพากร

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คลังเตรียมควัก 1 แสนล้านอุ้มชาวนา-คนจน

Posts related