นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไปสายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง และ บสย.อยู่ระหว่างการหารือเรื่องการเพิ่มระดับการค้ำประกันจาก 18% เป็น 50%เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3สถาบัน (กกร.) ซึ่งที่ผ่านมาได้เชิญผู้แทนสถาบันการเงินมาให้ความเห็นแล้วและเบื้องต้นเห็นว่าระดับการรับค้ำประกันอาจไม่ต้องสูงถึง 50%ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่กลุ่มลูกค้าและเวลาที่ค้ำประกันซึ่งทางกระทรวงการคลังกำลังทำข้อสรุปเรื่องระดับการค้ำประกันและรูปแบบเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี( ครม. ) พิจารณาต่อไป คาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเป็นหลัก“ขณะนี้ทางบรรษัทประกันสินเชื่อระหว่างประเทศ(ไอเอฟซี)ได้เจรจาผ่านสมาคมธนาคารไทย เพื่อทำข้อตกลงกับธนาคารพาณิชย์เป็นรายสถาบันในการรับประกันความเสียหายจากการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ส่วนที่เกินจากระดับ 20- 50%เป็นการค้ำประกันเพิ่มจากที่ บสย.รับค้ำประกันอยู่แล้ว โดยไอเอฟซีจะมีการคิดค่าธรรมเนียมส่วนที่เพิ่มคาดว่าไม่น่าจะเกิน 1% แล้วแต่ข้อตกลงของแต่ละสถาบัน” นายวิเชษฐ์กล่าวนายวิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ พ.ร.บ. หลักประกันทางธุรกิจนั้นถือว่าเป็นกฎหมายที่ดีหากมีการนำออกมาใช้ เชื่อว่าในระยะ 3 – 4 ปีแรกจะยังไม่กระทบการรับค้ำประกันของบสย.และเชื่อว่าจะช่วยเสริมการค้ำประกันให้เพิ่มมากขึ้น เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะทำให้ลูกหนี้สามารถขอสินเชื่อได้มากขึ้น จากการนำหลักประกันอื่น เช่นเรื่องสต๊อกสินค้า เครื่องจักร มาเป็นหลักประกันได้มากขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บสย. โยนคลังสรุปค้ำประกันลูกหนี้เพิ่ม

Posts related