รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาผัก ผลไม้หลายชนิดที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งได้ปรับราคาจากเดือนก่อนหน้านี้อย่างมาก โดยเฉพาะ ราคาขายปลีกผักคะน้าคัดที่ราคา 40-45 บาทต่อกก. ราคาเพิ่มขึ้น21-24 บาทจากเดือนก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 19-21 บาท, มะนาว 5-6 บาทต่อลูกเพิ่มขึ้น 1-1.5 บาทจากเดือนก่อนราคา  3.5-5 บาทต่อลูก, ผักบุ้งจีน 25-28 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 6-7 บาทจากเดือนก่อนราคา 19-21 บาทต่อกก., ผักกาดหอม ราคา 29 บาทต่อกก. เพิ่ม 5-12 บาทจากเดือนก่อนที่มีราคา 16-23 บาทต่อกก. , ผักชี 8.5 บาทต่อขีด เพิ่มขึ้น 1-2 บาทจากเดือนก่อนราคา 6.5-7.5 บาท ขณะที่ผลไม้ที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เช่น ส้มเขียวหวาน รังสิต เบอร์ 6 ราคาที่ 120-140 ต่อกก. เพิ่มขึ้น 20 บาทจากเดือนก่อนที่ราคา 100-120 บาทต่อกก., มะม่วงเขียวเสวยดิบ เบอร์ 0 ราคา 60-70 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 15-20 บาทจากเดือนก่อนที่มีราคา 45-50 บาทต่อกก. , มะม่วงน้ำดอกไม้ เบอร์ 0 ราคา 70-80 บาทต่อกก. ราคาเพิ่ม 10 บาทจากเดือนก่อนที่มีราคา 60-70 บาทต่อกก. “ยอมรับว่าสินค้าส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งจะเป็นกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น  ผักสด ผลไม้ ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นอาจแพงขึ้นบ้าง เพราะพื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง ผลผลิตเสียหาย แต่พอผ่านช่วงหน้าร้อนเข้าสู่ฤดูฝนราคาจะกลับไปถูกเหมือนเดิม ซึ่งตรงนี้คาดว่ากรมการค้าภายในน่าจะเข้าไปควบคุม และปล่อยให้เป็นไปตามฤดูกาล เนื่องจากในบางช่วงราคาพืชผักราคาถูกจนเกษตรกรต้องขาดทุน และเมื่อราคาดีก็เป็นช่วงที่เกษตรกรได้กำไรบ้าง ดังนั้นหากไม่มีการปรับขึ้นราคาที่รุนแรงมากนักทุกอย่างก็ให้เคลื่อนไหวเป็นไปตามกลไกของตลาด”                นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวว่า ราคาสินค้าเกษตรนั้นมองว่าจะมีการปรับราคาสูงขึ้นเพียงชั่วคราวตามฤดูกาลซึ่งหน้าแล้งผลผลิตทางการเกษตรบางชนิดผลิตได้น้อย ซึ่งหากมองอีกแง่หนึ่งก็จะเป็นผลดีกับเกษตรกรที่จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ แต่ก็ไม่อยากให้มีการปรับขึ้นราคาสูงจนเกินไป เพราะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ดังนั้นหากพบพฤติกรรมดังกล่าวผู้บริโภคก็สามารถแจ้งไปยังสายด่วน 1569  ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อเจ้าหน้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คะน้าราคาพุ่งรับภัยแล้ง

Posts related