ชี้แนวโน้มความต้องการสินค้าของขวัญกลับมาไทย หลังจีนเจอค่าแรงแพงขึ้น ส่วนความต้องการบริโภคของขวัญอาเซียนเริ่มปรับตัวดีขึ้น  รายงานข่าวจากวงการผู้ผลิตของขวัญของชำร่วยและของแต่งบ้านแจ้งว่า ภายหลังจากสภาพเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาและยุโรปอยู่ในสภาพชะลอตัวประกอบกับผู้ผลิตในประเทศเผชิญภาวะต้นทุนสูงขึ้นจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำคนละ 300 บาท จนอัตราการขยายตัวในปีที่ผ่านมาติดลบ ต้องปรับตัวและคาดหมายว่า ปี พ.ศ. 2556 ผลประกอบการน่าจะขยายตัวราว 5% แต่พบกับปัญหาเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปีประกอบกับผลกระทบทางการเมือง ทำให้การขยายตัวไม่เป็นไปตามเป้า คาดว่าน่าจะเติบโต 2-3% เท่านั้น นายศิริชัย เลิศศิริมิตร นายกสมาคมของขวัญของชำร่วย  และของแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาผู้ซื้อมีโอกาสแสวงหาแหล่งผลิตที่ราคาถูกจากทางอินเทอร์เน็ต ผู้ประกอบการจึงถูกกดราคา ประกอบกับต้องแบกภาระค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท ทำให้ต้นทุนสูง ทำให้ผู้ซื้อจากยุโรปเลี่ยงไปสั่งผลิตจากประเทศจีน       ที่ราคาต่ำกว่าแต่สถานการณ์ล่าสุด ปรากฏว่าค่าแรงในประเทศจีนสูงขึ้นจึงมีผู้ซื้อจากยุโรปเริ่มกลับมาติดต่อผู้ประกอบการในประเทศไทย เนื่องจากราคาการผลิตใกล้เคียงกันแต่คุณภาพการผลิตสินค้าจากไทยดีกว่า โดยกลุ่มที่เริ่มกลับมาแล้วเป็นสินค้าหมวดพลาสติก นายศิริชัยกล่าวอีกว่า สำหรับตลาดอาเซียน มีความสนใจบริโภคสินค้ากลุ่มของขวัญของชำร่วยน้อยกว่าทางยุโรปแต่ทางผู้ประกอบการไทยได้พยายามเปิดตลาด และพบว่าในประเทศที่มีกำลังซื้อ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย สามารถส่งออกได้ แต่เป็นตลาดขนาดเล็กส่วนประเทศที่เพิ่งเปิดเช่น เมียนมาร์ มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคและของขวัญเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตามนายศิริชัยระบุว่า ตลาดการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาร์ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นตลาดที่ข้อมูลการซื้อขายไม่มีรายงานที่ชัดเจนเหมือนการค้าระหว่างประเทศ.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : จีนเผชิญปัญหาค่าแรงแพง สินค้าของขวัญกลับมาหาไทย

Posts related