นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าภาคใต้ต้องการเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาแนวทางสร้างแรงจูงใจแก่นักธุรกิจให้เข้ามาทำการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น หลังจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกิดปัญหาความไม่สงบบ่อยครั้งจนกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการไม่กล้าทำธุรกิจในพื้นที่   ด้วยการให้ทางเลือกแก่บริษัทนิติบุคคลที่มีกำไรไม่ต้องเสียภาษีแต่ให้นำเงินก้อนดังกล่าวไปลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดน (ปัตตานี, ยะลา,นราธิวาส) และบางอำเภอในจังหวัดสงขลาแทน “เดิมบริษัท ก. ต้องเสียภาษี 10 ล้านบาทภาครัฐก็ให้ทางเลือกโดยให้บริษัทนำเงินก้อนดังกล่าวมาลงทุน แต่มีเงื่อนไขต้องเพิ่มเงินสมทบอีก 1-2 เท่าหรือ เพิ่มอีก 10-20 ล้านบาทมาลงทุนในพื้นที่เพื่อให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่ผู้ประกอบการนอกพื้นที่ไม่กล้ามาลงทุนจนทำให้เศรษฐกิจเกิดการซบเซา อย่างไรก็ตามหากบริษัทไม่ประสงค์ที่จะมาลงทุนก็จ่ายภาษีนิติบุคคลตามปกติเหมือนเดิม” อย่างไรก็ตามการเข้ามาลงทุนผู้ประกอบการต้องมีเงือนไขต่างๆเพิ่มเติมเช่น ต้องมีการสร้างโรงงาน มีการนำเครื่องจักร และต้องจ้างคนงานในพื้นที่ รวมถึงต้องดำเนินการไม่ต่ำกว่า 5 ปี เป็นต้น ซึ่งให้เกิดการลงทุนรยะยะยาว ซึ่งเชื่อว่าหากทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ในอนาคตพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็มีเศรษฐกิจที่คึกคักและปัญหาการก่อความไม่สงบก็จะลดน้อย นายวัฒนา กล่าวว่า ในส่วนแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคใต้โดยเฉพาะใน 5 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส นั้นทางหอการค้าทั้ง 5 จังหวัดได้ร่วมกันหามาตรการในการกระตุ้นการบริโภคและการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น การร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในการจัดงานแสดงสินค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในพื้นที่สามารถหาช่องทางการตลาดได้มากขึ้นจากปัจจุบันที่เศรษฐกิจค่อนข้างที่ซบเซามากทั้งในผลกระทบทางการเมือง การก่อความไม่สงบ และราคาพืชผลทางการเกษตรลดลงมาก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชงลงทุน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เสียภาษี

Posts related