น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันการให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ไฟล์ลิ่ง) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อดึงให้บริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีอยู่กว่า 1,000 ราย เข้าร่วมยื่นงบการเงินผ่านระบบอี-ไฟล์ลิ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการส่งงบการเงิน และสร้างความโปร่งใสในการทำธุรกิจ เพราะผู้ที่จะใช้ประโยชน์จากงบการเงิน สามารถทราบข้อมูลได้เร็วขึ้น “กรมฯ ได้นำร่องให้ธุรกิจที่มีความประสงค์จะยื่นงบการเงินผ่านระบบอี-ไฟล์ลิ่ง จำนวน 100 ราย จากที่สมัครเข้ามากว่า 370 รายทดลองยื่นงบการเงินไปแล้ว ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ เพราะการยื่นงบการเงินออนไลน์ ถือเป็นมิติใหม่ ซึ่งในอนาคต กรมฯ จะผลักดันให้ธุรกิจยื่นงบการเงินผ่านระบบออนไลน์ให้ได้ทั้งหมด”       สำหรับธุรกิจที่อยู่ในเป้าหมายผลักดันให้มีการยื่นงบการเงินผ่านระบบออนไลน์ ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และนิติบุคคลต่างประเทศที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งประกอบธุรกิจหลักๆ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจประกันภัย บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ธุรกิจบริการ และธุรกิจอื่นๆ เป็นต้น                 น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวว่า ในวันที่ 2 มิ.ย. นี้เป็นวันสุดท้ายที่กำหนดให้นิติบุคคลยื่นส่งงบการเงินกับกรมฯ ซึ่งปัจจุบันมีนิติบุคคลอยู่ทั่วประเทศกว่า  550,000 ราย โดยกรมฯ หวังว่านิติบุคคลจะยื่นส่งงบการเงินให้มากที่สุด เพราะการส่งงบการเงินจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือต่อนิติบุคคล ต่อนักลงทุนที่จะได้นำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์การลงทุนและการทำธุรกิจ และยังมีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ        ทั้งนี้ การไม่ส่งงบการเงินจะมีโทษตามกฎหมาย คือ ปรับนิติบุคคลไม่เกิน 50,000 บาท และปรับผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคลอีกไม่เกิน  50,000 บาท ซึ่งในทางปฏิบัติ กรมฯ มีหนังสือแจ้งเตือนให้นิติบุคคลยื่นงบการเงินและชำระค่าปรับ และหากพ้นระยะเวลาที่กำหนด ก็จะส่งเรื่องไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปทุกราย                 “ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.นี้ กรมฯ ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนข้ามเขต ซึ่งขอยืนยันว่าผู้ที่ต้องการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล สามารถยื่นจดทะเบียนจัดตั้งที่ไหนก็ได้ในสำนักงานของกรมฯ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่มีอยู่ทั้ง 87 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยอำนายความสะดวกในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดึงบริษัทมหาชนส่งงบการเงินผ่านออนไลน์

Posts related