นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน  กล่าวปาฐกาพิเศษ “เออีซี+6 กับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการค้าว่า ขณะนี้การเตรียมความพร้อมในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)ที่จะมีขึ้นในปี 58 ทราบว่าหลายๆงานของอาเซียนต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากปัญหาของประเทศไทยที่ยังไม่มีรัฐบาลและรัฐสภาฯตัวจริงในการทำหน้าที่เกี่ยวกับการลงนามสัตยาบันหรือการทำข้อตกลงในด้านการค้า การลงทุนและการบริการ ดังนั้นต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญไขในการหาทางออกของประเทศโดยด่วนเพื่อให้กลไลต่างๆของอาเซียนขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง                “ตอนนี้ประเทศไทยถือเป็นตัวถ่วงของอาเซียนในการเปิดเออีซี เนื่องจากยังไม่มีรัฐสภาในการพิจารณาข้อลงต่างๆ โดยเฉพาะด้านการค้า ซึ่งเป็นแบบนี้ไปนานๆก็จะทำให้ไทยและอาเซียนเสียโอกาสไปมาก อย่างไรก็ตามในส่วนของภาคเอกชนนั้นต้องให้เครดิตเนื่องจากมีความสามารถในการแข่งขันสูงและมีโครงการต่างๆในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีในการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่”                ทั้งนี้หากกลไกต่างๆของประเทศไทยทำงานเป็นปกติแล้วต้องการให้รัฐบาลเพิ่มช่องทางเร่งด่วนในการพิจารณาเรื่องของข้อตกลงต่างๆรวมถึงการลงนามเกี่ยวกับการเปิดเออีซี เพื่อไม่ต้องอีก 9 ประเทศต้องรอประเทศไทยเพียงประเทศเดียว  เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบแต่ละเรื่องกลัวความผิดจึงไม่กล้าตัดสินใจอะไรได้มากนัก                อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเปิดเออีซีในปี 58 ก็คงดำเนินการไปตามกำหนดและคงไม่เลื่อนเพื่อรอความพร้อมของประเทศไทยประเทศเดียว  แต่ในส่วนของข้อตกลงของไทยนั้นก็คงต้องดำเนินการแก้ไขในภายหลังได้                นายสุรินทร์ กล่าวว่า ต้องการเสนอให้ภาครัฐสร้างผู้ประกอบการพันธุ์ใหม่รองรับในการเปิดเออีซี รวมทั้งการตั้งสมาคมการค้าอาเซียนเป็นการเฉพาะ เช่น การจัดทำโครงการในการหาคนรุ่นใหม่แล้วพัฒนาความสามารถและส่งไปตามเมืองหลวงในทุกประเทศของอาเซียน เพื่อวิเคราะห์ตลาดสินค้าและการพิจารณาวิธีการควบรวมกิจการกับธุรกิจท้องถิ่นประเทศนั้นๆ เพราะจะสามารถทำตลาดสินค้าอาเซียนได้ง่ายกว่า

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ชี้ไทยตัวถ่วงอาเซียนทำเออีซีสะดุด

Posts related