นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ที่มี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ปรับปรุง ร่าง พ.ร.บ.นโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติปี 51 โดยมีประเด็นสำคัญคือ การเสนอให้นำเงินภาษีจากสุราและยาสูบ ในอัตรา 2% ของการจัดเก็บได้ทั้งปี หรือประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อปี มาจัดตั้งเป็นกองทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อมาใช้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังได้เห็นชอบให้กำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยวนำร่อง 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง, กลุ่มท่องเที่ยวแอคทีฟบีชได้แก่จังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด, กลุ่มท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี, กลุ่มท่องเที่ยวอันดามัน ได้แก่ จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล และกลุ่มท่องเที่ยวรอยัล โคสต์ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง เพื่อให้สามารถทำแผนการตลาดในอย่างชัดเจนและมีศักยภาพมากขึ้น “ปัจจุบันเงินจากภาษีสุราและยาสูบ ได้จัดสรรให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้รับอยู่แล้ว หลังจากนี้ จะมีการแต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นมาดำเนินการเรื่องนี้เพื่อนำเสนอต่อสภานิติบัญญติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาต่อไปและหากจัดตั้งได้ก็จะนำมาเป็นกองทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวก็จะนำใช้มาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ทั้งหมด โดยเฉพาะการนำร่องในกลุ่ม 5 ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว หลังจากนี้หากแหล่งท่องเที่ยวตามกลุ่มเหล่านี้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ก็จะนำเงินไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติมอีก”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดึงเงินภาษีบาปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว

Posts related