นายสมภพ มานะรังสรรค์   อธิบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์  เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างยั่งยืนเฉลี่ยอัตรา 4-6% ต่อปีได้  รัฐจะต้องลดการพึ่งพาการส่งออกและหันมาสนับสนุนการบริโภคในประเทศ เพราะในปัจจุบันส่งออกไทยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 73% ของจีดีพี เมื่อมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาก็ทำให้ไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักดังนั้นเห็นว่าควรลดการพึ่งพาการส่งออกให้เหลือไม่เกิน 50% ของจีดีพี  เนื่องจากประเทศพัฒนาแล้วมีสัดส่วนส่งออกเพียง 25%  ของจีดีพีเท่านั้น  นอกจากนี้จะต้องเน้นรายได้จากภาคบริการมากขึ้นหรือมีสัดส่วนอย่างน้อย 55% ของจีดีพี จากขณะนี้มีสัดส่วนอยู่ที่ 48%  ถือว่ามีสัดส่วนที่ต่ำเกินไป   สำหรับการเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้ถ้าคาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2% ส่วนการส่งออกปีนี้ตั้งไว้เพียง 5%   แต่หากจะได้ถึง 3% ในช่วงครึ่งปีหลังส่งออกจะต้องโตไม่ต่ำกว่า 7-8% แต่เชื่อว่ามีความเป็นได้ยาก เพราะในหลายประเทศยังไม่ฟื้นตัว ทั้งสหรัฐอเมริกา  ยุโรป และจีน ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกส่งออกติดลบ 1%  ดังนั้นต้องดูว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐว่าจะมีมากน้อยแค่ไหนหากมีความชัดเจนจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและเช้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าเอสเอ็มอีต้องเตรียมความพร้อมในการแข่งขันกับคู่แข่ง เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ในปี 58โดยจะต้องปรับเปลี่ยนนวัตกรรมใหม่ให้ทันสมัยกับเทคโนโลยีโลก ผลิตสินค้ามีคุณภาพ และเน้นธุรกิจบริการไม่ใช่การผลิต  เพราะอาจทำให้เสียเปรียบคู่แข่งพม่า ลาวและกัมพูชา                  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนะรัฐกระตุ้นบริโภคดันจีดีพีโตยั่งยืน

Posts related