นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจัดการกองทุน สมาคมบริษัทจดทะเบียน สมาคมตราสารหนี้ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง และเศรษฐกิจการลงทุนว่า ยอมรับว่า การเจรจาเพื่อหาทางออกประเทศที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) นั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และส่งผลให้ประชาชนคนไทยมีความหวังว่าจะมีข่าวดีสำหรับประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ตลาดทุนได้มีการส่งหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับการประกาศใช้กฎอัยการศึก ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นบวก“ยอมรับว่า ช่วงแรกนักลงทุนตกใจที่มีการประกาศใช้ เพราะบางประเทศเขาไม่มีกฎหมายนี้ ดังนั้นจึงเห็นแรงเทขายออกมา แต่เมื่อมีการทำหนังสือเพื่อให้นักลงทุนเข้าใจ เขาก็เริ่มกลับมาบนความคาดหวังว่าจะสามารถจบลงได้ แต่ก็มีบางประเทศที่เขาต้องการความชัดเจนจริงๆ จะมีความหวังอย่างเดียวไม่ได้ มันจึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในการเจรจาเกิดขึ้น เพราะปัญหาประเทศชาติมันรอไม่ได้ ดังนั้นต้องมีการยุติเร็วที่สุด เพื่อให้เข้าสู่ภาวะปกติ นักลงทุนเองก็คงอยากจะเห็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ แม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม นอกจากนี้การแก้ปัญหาในครั้งนี้จะต้องมานำสู่การเกิดปัญหาใหม่อีก”นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า สิ่งที่หลายฝ่ายมีความคาดหวังเหมือนกัน คือ การมีรัฐที่มีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการประเทศ ก่อนที่ภัยเศรษฐกิจต่างๆที่กำลังมีอยู่ในขณะนี้จะเข้ามาทำลายประเทศ แล้วไม่มีผู้รับมือ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือ จะต้องมีการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังในทุกด้าน โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม บำนาญชราภาพที่ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง และสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุด คือ การหาเงินมาเพื่อคืนเงินให้ชาวนา“เราสูญเสียเวลาเป็นทศวรรษแล้ว กับการทำร้ายเพื่อนร่วมชาติด้วยกัน อย่าย้อนกลับไปอีกเลย ถึงเวลาที่เราแต่ละคนต้องถามตัวเองแล้วว่า ในเชิงเศรษฐกิจนักธุรกิจทุกคนเป็นนักรบของชาติ แม้จะไม่มีอาวุธสงครามแบบกองทัพ แต่อาวุธของเราคือปัญญา เราก็ยังทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรีของนักรบทางเศรษฐกิจ เรานำพาบ้านเมืองผ่านทุกอุปสรรคไปได้ แต่ภัยอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งที่อาจทำให้หมดแรงสู้ คือ ภัยจากการแตกสามัคคีกันเองของคนในประเทศ ปัญหาเหล่านี้มีแต่ร้าวลึกลงไปในทุกวงการ ทุกสมาคม เราจะอยู่อย่างนี้หรือ หากนักธุรกิจการเมืองยังไม่ยอมสละเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ด้วยการปฏิรูป นักรบเศรษฐกิจอย่างเราคงหมดแรงในที่สุด รบไม่ไหว เราไม่อยากมีทศวรรษแห่งความสูญเสียอีกแล้ว ต้องการให้บ้านเมืองให้กลับเข้าสู่ความสงบสุขโดยไว ต้องกำหนดกรอบกติกา”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ตลาดทุนหนุนเจรจา หวังได้นายกฯมีอำนาจ

Posts related