นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีประเทศต่างๆ ติดต่อเพื่อขอซื้อข้าวไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่  โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ได้ติดต่อขอซื้อข้าวไทยรวมๆ แล้วประมาณเกือบ 10 ประเทศ  หากสามารถเจรจาขายได้ทั้งหมด น่าจะระบายข้าวในสต๊อกออกไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านตัน ทำให้ข้าวในสต๊อกที่มีอยู่ก็จะเหลืออีกไม่มาก ทั้งนี้ การเจรจาขาย มีทั้งขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ขายให้กับโบกเกอร์ และขายให้กับภาคเอกชน ซึ่งกรมฯ มีหลักในการขาย ก็คือ จะขายในราคาตลาด ให้ส่วนลดบ้างตามความเหมาะสม หากซื้อในปริมาณที่มาก แต่ยืนยันได้เลยว่า จะไม่มีการขายในราคาที่ถูกๆ อย่างแน่นอน เพราะจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศ ที่ขณะนี้กำลังปรับตัวสูงขึ้น “กรมฯ ประเมินว่า แนวโน้มราคาข้าวกำลังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผลผลิตส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ไม่ว่าจะเป็นของไทยเอง หรือของคู่แข่ง นั่นหมายความว่า ปีนี้ปริมาณข้าวในตลาดโลกจะลดลง และในส่วนของไทยเอง ก็เหลือข้าวไม่มากแล้ว โดยเฉพาะข้าวของรัฐบาล เพราะหลังจากที่ไม่มีโครงการรับจำนำ ก็ไม่มีข้าวเข้าสู่สต๊อกเลย” สำหรับแผนการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลให้ได้เดือนละ 800,000 – 1 ล้านตัน ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งเร็วๆ นี้ กรมฯ จะเปิดประมูลข้าวรายภูมิภาครอบต่อไปที่จังหวัดเชียงราย และนครสวรรค์ รวมถึงการเปิดประมูลข้าว  450,000 ตัน ในวันที่ 14 พ.ค.นี้

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ต่างชาติต่อคิวซื้อข้ายไทย

Posts related