นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถิติการปรับโครงสร้างหนี้ไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าขาดความสามารถในการชำระหนี้ โดยเฉพาะบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ส่งผลให้ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ยังถือว่าเป็นภาวะปกติ เพราะช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายตามไปด้วย เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ขณะนี้ “เมื่อเศรษฐกิจอ่อนตัวลง ก็มักจะมีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้บ้างนิดหน่อย เป็นปกติอยู่แล้ว โดยสินเชื่อจะเกี่ยวโยงกับจีดีพี ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มียอดคงค้าง 269,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า และสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ยังไม่หักกันสำรองต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.2% เอ็นพีแอลสุทธิ 1% ทั้งนี้ยังไม่เห็นว่าเป็นสัญญาณที่จะก่อให้เกิดชนวนวิกฤตเศรษฐกิจแต่อย่างใด” อย่างไรก็ตาม แม้สินเชื่ออุปโภคบริโภคไตรมาส 3 ขยายตัว 15.7% แต่ยังเป็นสัดส่วนที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 19.5% โดยสินเชื่ออุปโภคบริโภคชะลอลงทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 22.9% มาอยู่ที่ 19% ในไตรมาส 3 สินเชื่อรถยนต์ชะลอตัวลงจาก 30.2% เหลือ 20.8% สินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก 12.2% เหลือ 11.3% และสินเชื่อบัตรเครดิต จาก 19.5% เหลือ 17.3% ซึ่งเป็นการชะลอลงในทิศทางเดียวกับภาพรวมสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์จาก 12.8% เหลือ 11.6% ด้วย สำหรับบรรยากาศการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราการขยายตัวของสินเชื่อชะลอลงหรือไม่นั้น คงประเมินได้ยาก ขึ้นอยู่กับการคาดเดา จึงวัดไม่ได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของสินเชื่อมากน้อยแค่ไหน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธปท.รับลูกหนี้ผ่อนหนี้ไม่ไหวเป็นเรื่องปกติ

Posts related