ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?

หลายต่อหลายคนอาจจะคิดว่า หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ Hamburger Crisis ที่สหรัฐอเมริกา แล้วต่อด้วยปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในแถบยุโรป รวมกับปัญหาเงินฝืดในประเทศญี่ปุ่น และวิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยในช่วงตั้งแต่หลัง ปี 2549 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย คงจะซบเซา และเจ๊ง ล้มระเนระนาดไปตามๆกัน

แต่ความเป็นจริง กลับเป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนทั่วไปคิด เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ยังโตวันโตคืน ยังคงทำรายได้อย่างมหาศาลให้กับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว

เพราะในวิกฤตก็ยังมีโอกาสอยู่ ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจทั้งหลายประสบปัญหา แต่ปัญหานี้ไม่ได้ลุกลามไปสู่ยักษ์ใหญ่ตัวใหม่ นั่นคือ ประเทศจีน และรัสเซีย รวมทั้งไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเศรษฐีน้ำมัน อย่างประเทศในแถบตะวันออกกลาง

พวกเค้าเหล่านั้นยังคงหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยว และจับจ่ายใช้สอยอยู่ในเมืองไทยเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย โดยเฉพาะคนในกลุ่ม ASEAN ด้วยกัน ที่นับวันยิ่งจะทวีมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย

ธุรกิจโรงแรม ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย คงไม่ได้อยู่กันแค่วันเดียว ยังไงก็ต้องอยู่หลายวัน และมีการค้างคืนอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น นี่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ และเปิดกว้างสำหรับผู้ที่มีเงินทุน และยังคงมองหาว่าจะเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรดี หนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุดคงจะเป็นธุรกิจโรงแรมอย่างแน่นอน

รูปแบบของธุรกิจโรงแรม

ธุรกิจโรงแรมสามารถแบ่งได้ 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

1. Bed & Breakfast

รูปแบบของโรงแรมแบบ Bed & Breakfast คือ รูปแบบที่เจ้าของบ้าน แบ่งให้แขกมาพักที่ห้องนอนห้องหนึ่ง ที่ถูกจัดเตรียมไว้ และมีบริการอาหารเช้า ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมมากในแถบยุโรป

แต่สำหรับในเมืองไทย อาจจะยังไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร หรืออาจจะเห็นได้ค่อนข้างน้อย แขกจะได้รับความสะดวกสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน และความเป็นกันเองในแง่ของการบริการของเจ้าของบ้านด้วย

2. Hostel

Hostel เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เห็นได้ค่อนข้างน้อยในเมืองไทย แต่ในยุโรปก็เป็นที่นิยมมาก เช่นเดียวกัน Hostel เป็นโรงแรมที่น่าจะมีค่าบริการถูกที่สุดในทุกรูปแบบ เพราะมีทั้งห้องที่พักรวมกัน 8 คน หรือ 16 คน บางที่อาจจะมีการแยก ชาย หญิง เพื่อเป็นสัดส่วน

และอีกสิ่งหนึ่งที่ Hostel ขาดไม่ได้ ก็คือ ห้องครัว สำหรับแขกที่มาพัก และมีการจัดเตรียมขนมปัง ชา กาแฟ เพื่อบริการเป็นอาหารเช้าแก่แขก นอกจากนี้ Hostel ยังเป็นที่ๆ แขกส่วนใหญ่สามารถนั่งสนทนาแลกเปลี่ยนกันได้ในห้องครัว ซึ่งเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากโรงแรมทั่วไป

3. โรงแรมธรรมดาอย่างง่ายๆ

โรงแรมแบบนี้ เป็นรูปแบบที่พบเจอได้มากที่สุดในเมืองไทย เนื่องจากง่ายแก่การบริหารจัดการ และใช้ต้นทุนที่ต่ำ โรงแรมรูปแบบนี้ จะเป็นที่พักเพียงอย่างเดียว ไม่มีบริการอื่นเพิ่มเติม เช่น ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ห้องพักก็จะตกแต่งอย่างง่ายๆ โรงแรมประเภทนี้ เหมาะสำหรับการเดินทางแบบใช้งบประมาณต่ำ ราคาถูก และสะดวก

4. โรงแรมเต็มรูปแบบ

โรงแรมรูปแบบสุดท้ายนี้ เป็นโรงแรมที่มีบริการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งความหลากหลายของบริการก็อาจจะขึ้นอยู่กับขนาด และชื่อเสียงของโรงแรม มีตั้งแต่โรงแรมอย่างง่ายๆ แต่มีห้องอาหารเพิ่มขึ้นมา ไปจนถึงโรงแรมที่มีบริการครบจริงๆ เช่น มีรถไปรับถึงสนามบิน มีบริการจ้างรถ Taxi เป็นต้น

จุดเด่นของธุรกิจโรงแรม

ธุรกิจโรงแรมมีจุดเด่น ดังนี้

1. เมืองไทยเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยว

ไม่ว่าจะมีการจัดอันดับ เมืองน่าท่องเที่ยวระดับโลกครั้งใด เมืองไทยก็ติดอันดับต้นๆ ทุกครั้ง เพราะจุดเด่นเรื่อง อาหารอร่อย คนมีน้ำใจ หาดทรายที่สวยงาม หรือแม้แต่ชื่อเสียงในทางไม่ดีก็ตาม แต่นั่นเป็นเสน่ห์ ที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับ และทำให้ธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน

2. ได้รับประโยชน์จาก AEC

การเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือที่เรียกว่า AEC จะทำให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย มากกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว อย่างธุรกิจโรงแรมจะโตวันโตคืน อย่างแน่นอน

3. คนไทยมีหัวใจรักการบริการ

คนไทยโดยปกติแล้ว มีอุปนิสัยที่เหมาะ และเข้ากันได้ดีกับงานบริการ นั่นคือ ใจเย็น และยิ้มง่าย การทำธุรกิจโรงแรมจึงเป็น การใช้ประโยชน์และพรสวรรค์ที่เป็นไปโดยธรรมชาติของคนไทย ไม่ต้องฝึกกันมากในแง่ของ จิตใจที่รักการบริการ

4. เป็นธุรกิจที่ธนาคารไว้วางใจ

ด้วยความที่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ง่ายแก่การขอสินเชื่อกับธนาคาร เพราะสามารถเอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกัน เพื่อนำเงินมาใช้สร้างสิ่งปลูกสร้างได้ ทำให้เจ้าของธุรกิจไม่ต้องลำบากระดมทุนมหาศาล เพื่อมาใช้สร้างธุรกิจ เค้าอาจจะใช้เงินทุน 30% และเงินกู้ 70% ก็ย่อมได้

5. เข้ากับแนวโน้มของสังคมผู้สูงอายุ

นับวันประชากรผู้สูงอายุทั่วทั้งโลก ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น นั่นเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจโรงแรมเลยทีเดียว เพราะผู้สูงอายุนั้น นอกจากจะใช้เงินที่มีอยู่ในกระเป๋าไปกับอาหารเสริม และสินค้าที่ใช้สำหรับดูแลสุขภาพกายแล้ว สำหรับสุขภาพใจนั้น การมาเที่ยวพักผ่อนในประเทศไทยก็เป็นวิธีผ่อนคลายวิธีหนึ่ง

ปัจจัยสู่ความสำเร็จของ ธุรกิจโรงแรม

1. ทำเล

“Location is a very important aspect to songwriting.”
Ken Hill

“ทำเลก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อการเขียนเพลง” เป็นคำพูดของ Ken Hill นักเขียนบทละคร และผู้กำกับ ชาวอังกฤษ

แม้แต่การเขียนเพลง หรือเขียนบทละคร ยังให้ความสำคัญกับทำเล แล้วธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะต้องพบปะกับลูกค้าโดยตรง จะไม่ให้ความสำคัญกับทำเลได้อย่างไร ทีนี้ความแตกต่างในเรื่องของทำเลในธุรกิจโรงแรมกับธุรกิจอื่น คือ ธุรกิจโรงแรมนั้น มีหลากหลายรูปแบบ และต้องการทำเลที่แตกต่างกัน

เช่น ถ้าคุณเปิดโรงแรมอย่างง่ายๆ และราคาถูก คุณอาจจะเลือกทำเลริมถนนที่ไม่มีคนพลุกพล่าน และจับกลุ่มลูกค้าที่แค่ต้องการพักข้ามคืน เหมือนรูปแบบของ Motel6 หรือ Super8 ที่อยู่ตามทางหลวงสายหลักของอเมริกา ซึ่งแค่นำเสนอที่ซุกหัวนอน ในราคาถูกเท่านั้น

2. การ Focus ที่จุดแข็ง และสร้างความแตกต่าง

“If you want to be around in 10 years you’ve got to do something to differentiate yourself from the pack.”
Chris Evans

“ถ้าคุณยังอยากจะมีที่ยืนอยู่ตรงนี้ ในอีก 10 ปีข้างหน้า สิ่งที่คุณต้องทำคือ อะไรบางอย่างที่สร้างความแตกต่างจากฝูงชน” เป็นคำพูดของ Chris Evans นักแสดง ชาวอเมริกา

เหมือนอย่างที่ Chris Evans บอก ถ้าคุณเลือกที่จะทำ Hostel หรือ Bed & Breakfast คุณก็ลงมือเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง หรือหากคุณสร้างโรงแรมอย่างง่าย ก็ต้องมอบคุณค่าที่เหนือกว่าคู่แข่ง ในราคาที่เท่ากันหรือถูกกว่า

แต่ถ้าคุณเลือกโรงแรมอย่างเต็มรูปแบบ ก็คงต้องคิดหนักหน่อยว่าคุณจะนำเสนออะไร เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งอาจจะเป็น โรงแรมบูติกแบบที่มี Concept การตกแต่งเป็นของตัวเอง เช่น แบบตะวันออกกลาง แบบเกาหลี หรือตกแต่งแบบ Modern ก็เป็นได้

3. การบริการที่เป็นเลิศ และการสื่อสารภาษาอังกฤษ

ธุรกิจโรงแรม เป็นธุรกิจบริการประเภทหนึ่ง เพราะฉะนั้นการให้ความสำคัญเรื่องการฝึกอบรมพนักงานให้ Take care ลูกค้าให้ดีนั้น เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง และให้ความสำคัญต่อจาก 2 ปัจจัยที่กล่าวถึงข้างต้น ถ้าพนักงานบริการดี แขกที่มาพักก็ Happy ผลประกอบการของธุรกิจคุณก็ Happy ตามไปด้วย

นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจโรงแรม คือ การสื่อสารกับชาวต่างชาติ พนักงานของคุณควรที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะพูดคุยและตอบสนองความต้องการของแขกชาวต่างชาติที่เข้าพัก ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของธุรกิจโรงแรมเลยทีเดียว

Posts related