นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงนี้ หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง.ได้ลดดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.25% เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา  เนื่องจากต้องรอดูต้นทุนทางการเงินของธนาคาร โดยเฉพาะเงินกู้สักระยะก่อนว่า มาร์จิ้น หรือกำไรต่อหน่วยของธนาคารจะเป็นอย่างไรบ้าง  แม้ว่าธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก พร้อมกับธนาคารพาณิชย์ไปก่อนหน้านี้แล้ว   สำหรับเงินฝากในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา(เม.ย.-พ.ย.) มีกว่า 50,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ 82,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้ เพราะในช่วงปลายปีจะมีแคมเปญเงินฝากออกมาอย่างต่อเนื่อง  เพราะมีเงินฝากประจำบางประเภทที่ครบกำหนดระยะเวลาจึงต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาทดแทนของเก่า  เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งยังช่วยเพิ่มช่องทางในการหาลูกค้ารายใหม่ให้กับธนาคารด้วย  อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันธนาคารมีฐานเงินฝากอยู่ที่ 1,050,000 ล้านบาท “ฐานเงินฝากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย เป็นเกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่อยู่ในชนบท ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีรายได้จากการขายพืชผลการเกษตรตั้งแต่ปลายปีจนถึงเดือนมี.ค.57จึงเชื่อว่าฐานเงินฝากของธนาคารยังได้ตามเป้าหมาย” ส่วนสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมามีการปล่อยไปแล้ว 60,000 ล้านบาท จากทั้งปีที่ตั้งไว้ 85,000 ล้านบาทขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ซึ่งยังไม่มีสัญญาณที่น่าเป็นห่วง เพราะความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนหลักประกันสินเชื่อใหม่ จากปัจจุบันยังใช้หลักประกันผ่อนปรน เช่น ใช้บุคคลค้ำประกัน หรือกลุ่มรวมตัวกันไม่ได้ใช้ที่ดิน หรือหลักทรัพย์ประเภทอื่น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ธ.ก.ส.ตรึงดอกเบี้ย

Posts related