นายภาวิน ศิริประภานุกูล นักวิชาการ โครงการส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงบประมาณประจำรัฐสภา (ไทยพีบีโอ) เปิดเผยว่า ได้จัดทำตัวอย่างการวิเคราะห์ผลกระทบทางการคลังของนโยบายรถใหม่คันแรก พบว่า การคืนภาษีสรรพสามิตในโครงการดังกล่าว จะทำให้ขาดทุนสุทธิประมาณ 28,000 ล้านบาท เพราะกรมสรรพสามิตจะมีรายได้จากการเก็บภาษีรถยนต์เพิ่มขึ้นเพียง 54,000 ล้านบาท แต่รัฐบาลยังมีรายจ่ายที่ต้องตั้งงบเพื่อคืนภาษีถึง 82,000 หมื่นล้านบาท โดยจากการประเมินภาพรวม คาดว่า ต้นทุนสุทธิของโครงการอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 55 จนถึงการส่งมอบต่อเนื่องในปี 56 พบว่า จำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ประเภท รย.1 ได้ปรับสูงขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่จำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ปีงบประมาณ 57 ซึ่งมีรถยนต์ประเภทรย.1 อยู่ที่ 690,000 คัน ลดลงจากปีก่อน 36% แต่หากนำจำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ รย.1 มาเปรียบเทียบเรื่องการจัดเก็บภาษีสรรสามิตรถยนต์ในปีงบประมาณ 57 พบว่า การจัดเก็บได้ปรับลดลงประมาณ 7,000 ล้านบาท ส่งผลต่อเนื่องถึงปีงบประมาณ 58 ที่การจัดเก็บภาษีจะปรับลดลงจากระดับปกติอีกประมาณ 7,000 ล้านบาทด้วย นายภาวิน กล่าวว่า หากวิเคราะห์ถึงผลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กลับไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เช่นเดียวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งผลกระทบของโครงการดังกล่าวที่จะส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้สรรพสามิตรถยนต์ของรัฐบาลนั้น ยังสร้างความแตกต่างจากตัวเลขประมาณการในเอกสารงบประมาณของรัฐบาลชัดเจน โดยตามผลวิเคราะห์ของไทยพีบีโอ พบว่า มูลค่าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรวม ในปีงบประมาณ 57 ปรับเพิ่ม 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ตัวเลขในเอกสารงบประมาณของรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 7.2%  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : นักวิชาการชี้รถคันแรกทำรัฐขาดทุนยับ

Posts related