นายบุญทักษ์ หวังเจริญประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 2 ปีนี้ จะกลับมาเป็นบวกหลังจากที่ไตรมาสแรกที่ผ่านมาหดตัวลง จากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกเป็นหลัก ยกเว้นภาคเกษตรที่ยังไม่ฟื้นตัวเช่น ภาคใต้แย่ เนื่องจากราคายางตกต่ำ ซึ่งยอมรับว่าสินเชื่อผูกพันกับระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นหากเศรษฐกิจดี สินเชื่อจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่ดีสินเชื่อจะปรับตัวลดลง“สินเชื่อขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบมากเนื่องจากไม่มีรัฐบาล ทำให้การใช้งบประมาณไม่เต็มที่ และเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งแตกต่างจากอดีต แม้มีปัญหาความไม่สงบทางการเมือง ก็ยังไปได้ เนื่องจากรัฐบาลสามารถใช้จ่ายงบลงทุนได้ และพึ่งพาเศรษฐกิจภายนอกประเทศ แต่ตอนนี้เหตุการณ์ตรงกันข้าม ส่วนการขอใช้สินเชื่อจะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัญหาการเมืองในประเทศ ถ้าไม่รุนแรงความต้องการสินเชื่อของธุรกิจจะเพิ่มขึ้นแน่นอน คาดว่าสินเชื่อทั้งระบบปีนี้จะโต 6-8% ขณะที่จีดีพี 2.5-2.7%”ทั้งนี้เห็นว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะกระทบต่อภาคธุรกิจเป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นการจ้างงาน ส่วนธนาคารพาณิชย์จะได้รับผลกระทบเป็นอันดับสุดท้าย โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังไปได้ เพราะไม่ได้เลวร้าย เพียงแต่ซึม ไม่ตกรุนแรงเหมือนวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ และซัพไพร์มนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เดือนเม.ย.-มิ.ย.นี้ คาดว่าการปล่อยสินเชื่อมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากตัวเลขการส่งออกที่ฟื้นตัว ส่วนการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์จะเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งคงตั้งเป้าหมายสินเชื่อตามภาวะเศรษฐกิจแม้ว่าในช่วงนี้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ธนาคารพาณิชย์พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือลูกค้า ดูแลการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง“ความต้องสินเชื่อมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว แม้ว่าจะมีความผันผวนเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าการส่งออกที่มีแนวโน้มที่ดีจะช่วยทำให้สินเชื่อเติบโตได้ แต่ธุรกิจอื่นยังช่วยประคับประคองกันไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่ง พยายามที่จะหารายได้เข้ามาทดแทนสินเชื่อ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นค่าธรรมเนียม หรือค่าฟีเพียงอย่างเดียว แต่อาจหารายได้ด้านอื่นมาเสริมไม่ได้เน้นด้านใดด้านหนึ่งเฉพาะ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : นายแบงก์หวังส่งออกดันสินเชื่อผงกหัว

Posts related