นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไออยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อปรับปรุงยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้เกิดการลงทุนแบบคลัสเตอร์มากขึ้นเนื่องจากต้องการสร่างความเข้มแข็งอุต ฯ ท่องเที่ยว โดยจะส่งเสริมฯ ตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติเป็นหลัก ได้จำแนกกลุ่มท่องเที่ยวที่มีศักยภาพที่ต้องการส่งเสริมฯ เป็น 8 คลัสเตอร์ ได้แก่ กลุ่มอารยธรรมล้านนาและภาคเหนือตอนบน กลุ่มมรดกโลกเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กลุ่มอารยธรรมอีสานใต้ กลุ่มวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง กลุ่มวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำภาคกลาง กลุ่มกิจกรรมที่เกี่ยวกับชายหาด (แอคทีฟ บีช) กลุ่มรอยัล โคท และกลุ่มมหัศจรรย์สองสมุทร“เราจะใช้กลไกของบีโอไอส่งเสริมให้เกิดความแตกต่างของสินค้าการท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวที่มูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมเป็นคลัสเตอร์ที่จะมุ่งให้เกิดการลงทุนในธุรกิจหลักและธุรกิจสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน”ทั้งนี้ ที่ผ่านมา แม้บีโอไอจะให้ความสำคัญกับท่องเที่ยว แต่ผู้ประกอบการยังขอรับส่งเสริมฯ เข้ามาน้อย โดยยอดให้การส่งเสริมฯสะสมรวมอยู่ที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท และส่วนใหญ่หรือราว 80,000 ล้านบาทยังคงเป็นการลงทุนในกิจการโรงแรม เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการค่อนข้างทำธุรกิจแบบกระจัดกระจายไม่มีการรวมตัวเป็นคลัสเตอร์มีธุรกิจหลักและสนับสนุน เมื่อขอรับส่งเสริมฯก็มูลค่าไม่มาก ดังนั้นหากส่งเสริมให้เกิดการรวมคลัสเตอร์จะทำให้การขอรับส่งเสริมฯ กลุ่มนี้สูงขึ้น“ในปัจจุบันนี้ บีโอไอให้การส่งเสริมฯ ด้านการท่องเที่ยวอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กิจการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น กิจการที่จอดเรือท่องเที่ยวให้การส่งเสริม 4 โครงการ เงินลงทุนรวม 300 ล้านบาท กิจการเดินเรือท่องเที่ยวหรือให้เช่าเรือ 15 โครงการ เงินลงทุนรวม 468 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นกิจการเดินเรือที่ให้บริการในทะเลอันดามัน กิจการสวนสนุก 5 โครงการ มูลค่าลงทุน 3,000 ล้านบาท ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม 8 โครงการ มูลค่าลงทุน 878ล้านบาท ส่วนกิจการที่อยู่ระหว่างยื่นขอรับส่งเสริมเข้ามาในกลุ่มนี้คือสนามแข่งขันรถยนต์ในจังหวัดบุรีรัมย์ และยังมีผู้ประกอบการเข้ามาหารือในการสร้างสวนสนุกขนาดใหญ่อีกหลายโครงการ”ส่วนกลุ่มที่ 2 ได้แก่ กิจการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งได้ให้การส่งเสริมฯ ไปแล้ว คือ กิจการหอประชุมขนาดใหญ่ 2 โครงการ มูลค่าลงทุน 732 ล้านบาท กิจการโรงแรม 61 โครงการ มูลค่าลงทุน 81,000 ล้านบาท กิจการบ้านพักและศูนย์สวัสดิการผู้สูงอายุ 12 โครงการ เงินลงทุนรวม 2,929 ล้าน กิจการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ 2 โครงการเงินลงทุนรวม 112 ล้านบาท และกิจการบริการเพื่อสนับสนุนการพำนักระยะยาว 2 โครงการ เงินลงทุนรวม 21.5 ล้านบาทสำหรับนโยบายส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ที่เดิมจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 58 เป็นต้นไปนั้น คงจะต้องมีการเลื่อนการบังคับใช้ออกไปโดยรอให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาก่อน เพราะหากไปบังคับใช้ในช่วงที่ไม่มีความชัดเจนทางการเมือง อาจจะสร้างปัญหาในภายหลัง

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : บีโอไอเร่งเดินหน้าหนุนท่องเที่ยว

Posts related