นางดวงพร รอดพยาธิ์  รักษาการอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  กรมฯตั้งเป้าที่จะระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล จำนวน 18 ล้านตันให้หมดภายใน 3 ปีหรือเฉลี่ยเดือนละ 500,000 ตัน ผ่าน 4 แนวทางประกอบด้วยการประมูลทั่วไป, การประมูลผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย เอเฟท), การขายตรงแก่ผู้ประกอบการ และการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)  เนื่องจากสาเหตุที่ไม่เร่งระบายเหมือนกับรัฐบาลชุดก่อนเพราะไม่ต้องการให้กระทบต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศโดยเฉพาะข้าวนาปี 57/58 ที่จะออกมาในช่วงปลายปี   โดยกรมฯจะนำเสนอแนวทางดังกล่าวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันที่ 11 ก.ค.นี้ ทั้งนี้แนวทางการระบายข้าวอาจมีการปรับเปลี่ยนในวิธีการดำเนินการบ้าง โดยจะเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ และเอกชน มากขึ้น และจะเปิดให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาซื้อข้าวได้ โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นธรรม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้รายเล็กเข้าร่วมประมูลเป็นกองๆ ละประมาณ 20,000 กระสอบได้        สำหรับแนวทางการทำตลาดนั้นรัฐบาลจะไม่แย่งตลาดกับภาคเอกชนแต่ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันและมีการช่วยเหลือในการทำตลาดมากขึ้นตามนโยบายของคสช. พร้อมทั้งมีการทำแผนร่วมกันในเพิ่มสัดส่วนตลาดข้าวในประเทศที่ไทยเคยครองตลาดแล้วถูกคู่แข่งอย่างเวียดนามแย่งตลาดไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา “แนวทางในการระบายข้าวนั้นกรมฯจะไม่เร่งให้หมดเพราะจะไปกระทบต่อราคาข้าวไทย แต่จะดูแนวโน้มความต้องการปริมาณข้าวของโลกเป็นหลัก เนื่องจาก คสช. ยกเลิกโครงการจำนำข้าวไปแล้วจึงไม่มีข้าวใหม่เข้ามาเพิ่มในสต็อก ดังนั้นหากมีการตรวจสอบปริมาณข้าวในสต็อกหมดแล้วก็จะทำให้หน่วยงานต่างๆมีการวางแผนในการบริหารจัดการต่อไป ซึ่งคาดว่าในเดือน ส.ค. นี้ก็จะเริ่มระบายข้าวได้แล้ว โดยไม่ต้องให้มีการตรวจให้เสร็จก่อน” ส่วนแนวโน้วสถานการณ์ข้าวครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการขายข้าวของไทย เพราะปริมาณผลผลิตข้าวทั่วโลกจะน่าจะลดลง จากปรากฎการณ์เอลนินโญ่ น่าจะทำให้ต่างประเทศเข้ามาซื้อข้าวไทยเพิ่มเติมคาดว่าในปีนี้ไทยจะส่งออกข้าวได้ในระดับ 8-10 ล้านตันจากในช่วง 6 เดือนแรกของปี (ม.ค.-มิ.ย.57) ไทยส่งออกข้าวแล้ว 5.35 ล้านตัน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 50%  มูลค่า 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 19% 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์เร่งล้างสต็อกข้าว 18 ล้านตันใน 3 ปี

Posts related