นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย  เปิดเผยว่า  แนวโน้มการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยสิ้นไตรมาส 1/57 ปีนี้ ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ถ้าเฉลี่ยทั้งปีค่าเงินบาทจะอยู่ที่  33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ โดยเปิดตลาดปีใหม่วันแรกคือ 2 ม.ค.ที่ผ่านมาพบว่า    มีแรงซื้อขายค่าเงินบาทเป็นจำนวนมากจนทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปแตะที่  32.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ   ซึ่งถือว่าอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี 11 เดือน  เนื่องจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับลดลงแรงจากปัญหาการเมือง   “ในช่วงปีที่ผ่านมาอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ดังนั้นในปีนี้ทุกคนได้ตั้งความหวังว่าการใช้จ่ายของภาครัฐ จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ  แต่ถ้าไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาครัฐ และมีผลต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้”  ทั้งนี้หากปัจจัยการเมืองมีความชัดเจนและมีเสถียรภาพจะช่วยให้การเคลื่อนไหวค่าเงินบาททรงตัว ขณะเดียวกันต้องดูปัจจัยภายนอก และการเคลื่อนไหวของค่าเงินในภูมิภาคว่ามีทิศทางการเคลื่อนไหวอย่างไร   ส่วนการลดมาตรการคิวอีของสหรัฐฯลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ก่อนหน้านี้ลดไปแล้ว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดว่ามีผลต่อค่าเงินมากน้อยแค่ไหน    รายงานข่าวจากนักค้าเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยาแจ้งว่า  ค่าเงินบาทเปิดตลาดเมื่อวันที่ 2 ม.ค.อยู่ที่ระดับ 32.75-32.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งอ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลมาจากค่าเงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น   เช่น  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีราคาบ้าน ขณะที่ปัญหาการเมืองในประเทศยังไม่มีข้อยุติว่าจะไปทางไหนทำให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศ 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พิษการเมืองฉุดบาทอ่อน

Posts related