นายอุดม วงษ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนปีนี้ คาดว่าจะมี 900,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และภาวะการส่งออกที่ชะลอตัวลงเป็นหลัก โดยยอดขอรับส่งเสริมฯ 10 เดือน อยู่ที่ 7.57 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดว่าปี 57 ยอดขอรับการส่งเสริม ฯ จะไม่ต่ำกว่า 900,000 ล้านบาท “หากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ อยู่ในระดับแค่ความเห็นไม่ตรงกัน ไม่มีความรุนแรง ก็ไม่น่าเป็นประเด็นที่กระทบต่อการลงทุนเท่าใดนัก โดยความกังวลหลัก ๆ ที่จะส่งผลต่อเงินลงทุนในระยะต่อไป มาจากภาวะเศรษฐกิจโลก และการส่งออกเป็นหลัก ถ้ายังอยู่ในระดับต่ำ จะส่งผลต่อการลงทุนขยายกิจการของภาคเอกชนด้วย” สำหรับความคืบหน้าการจัดนโยบายส่งเสริมฯ ฉบับใหม่ ปี 57-60 นั้น เรียบร้อยแล้วโดยได้หารือเพิ่มเติม ทั้งภาคเอชนและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไม่มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมแล้ว โดยขั้นตอนต่อไป จะนำนโยบายฉบับใหม่เสนอให้คณะกรรมการบีโอไออนุมัติ อย่างไรก็ตามนายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองประธานบอร์ดบีโอไอ ได้หารือถึงการแต่งตั้งบอร์ดใหม่ แทนชุดเดิมที่หมดวาระกับนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดบีโอไอแล้ว คาดว่า จะได้บอร์ดใหม่ภายในปีนี้ เพื่อให้อนุมัตินโยบายใหม่เร็วขึ้น และประกาศก่อนสิ้นปีนี้ โดยจะให้นักลงทุนปรับตัว 1 ปี ก่อนแผนจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปี 58 ตามกรอบเวลาที่วางไว้ ซึ่งหากล่าช้าจะทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นได้ ทั้งนี้ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ จะเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เน้นฐานความรู้หรือการวิจัยและพัฒนาเน้นความสมดุลระหว่างสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้ทรัพยากรในประเทศที่มีอยู่จำกัด ”ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนภายใต้นโยบายฉบับใหม่จะเน้นไปที่การส่งเสริมธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศด้วย เพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขัน ก้าวข้ามข้อจำกัดด้านวัตถุดิบในประเทศที่ขาดแคลนที่เป็นการขยายตลาดใหม่ โดยแนวทางส่งเสริมจะยังคงเน้นการพานักลงทุนไปพบหน่วยงานภาครัฐรวมถึงจับคู่ธุรกิจกับนักลงทุนประเทศเป้าหมาย”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยอดขอรับส่งเสริมจากบีโอไอ 56 ไม่ถึงเป้าหมาย

Posts related