นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมของขวัญของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน และเลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย เปิดเผยว่า บรรยากาศการซื้อสินค้าของขวัญของชำร่วย  และสินค้าไลฟ์สไตล์ ในช่วงปลายปี  โดยเฉพาะเดือนธ.ค. ลดลง 10 – 12 % เนื่องจากสถานการณ์การเมือง อยู่ในภาวะไม่ปกติ  ส่งผลกระทบต่อแรงจูงใจในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค  หากแยกประเภทสินค้าของขวัญของชำร่วยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มลูกค้าองค์กร ที่สั่งทำสินค้าพิเศษ และกระเช้าของขวัญ เพื่อมอบให้แก่ลูกค้าลดลงถึง 40 % ส่วนกลุ่มสินค้าของขวัญของชำร่วย ภาคท่องเที่ยว และภาคชายแดน ปรับลดลงไม่มาก จึงทำให้ภาพรวมปรับลดลงไม่มากนัก “ปกติในช่วงเดือนธ.ค. ในห้างสรรพสินค้า หรือร้านต่างๆ คนเบียดแย่งกันซื้อของแล้ว แต่ปีนี้แปลก  จากการสอบถามผู้ประกอบการสินค้าในกลุ่มนี้ หลายๆคนบอกเงียบมาก  เพราะการตัดสินใจซื้อสินค้ากลุ่มนี้ เรื่องอารมณ์ เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้คนซื้อของมอบให้กัน   เลยทำให้ยอดขายตกลงมาก ซึ่งงานต่างๆที่ผ่านมา ที่สมาคมจัด เช่น งานของขวัญของชำร่วย  ที่เพิ่งจัดไป ยอดขายก็ลดลงมาก  ตอนนี้ต้องมาลุ้น งานสุดท้ายของปีที่สมาคมไปร่วมด้วย คือ ไทยแลนด์ เบสท์บาย 2013  ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 22 ธ.ค. นี้ว่า ยอดขายจะเป็นอย่างไร” ส่วนภาคการส่งออกสินค้าในกลุ่มของขวัญของชำร่วย  และสินค้าไลฟ์สไตล์ คาดว่า ปีนี้มีมูลค่า 93,600 – 100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4-5 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่า ปีนี้จะขยายตัว  2.8 – 3 % เนื่องจากการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ขยายตัวได้ดี  เพราะตลาดต่างประเทศ ยอมรับสินค้าของไทย ในเรื่องคุณภาพ และการออกแบบมากขึ้น  ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ในเดือน ก.ย. เช่น สหรัฐอเมริกา  มีมูลค่าการส่งออก 21,000 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 8 %, ออสเตรเลีย มีมูลค่า 5,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 % และในกลุ่มอาเซียน ขยายตัว มีมูลค่า 12,000 – 20,000 เพิ่มขึ้น  25 % ทำลายสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปีทั้งในประเทศออสเตรเลีย และกลุ่มอาเซียน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการส่งออกที่น่าสนใจ คือ ในกลุ่มอาเซียน  มีการขยายตัวมาก เช่น  อินโดนีเซีย ขยายตัว 34.07 % พม่า ขยายตัว 23.88 %  เวียดนาม ขยายตัว 22.1 % มาเลเซีย ขยายตัว 21.25 %  เป็นผลมาจากการเตรียมเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จึงทำให้มีการซื้อขายกันมากขึ้น โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้า ตามชายแดน  “ ตอนนี้ตัวเลขการส่งออกที่เรามีอยู่จะนับถึงสิ้นสุด ก.ย. แต่เชื่อว่า ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้  ตัวเลขยังดีอยู่ คาดว่า ขยายตัว 12 – 15 % ส่วน ผลกระทบจากการเมือง ที่มีผลต่อตัวเลขการส่งออกนั้น จะเริ่มเห็นในไตรมาส 1 ของปีหน้า เพราะยอดการส่งออก หรือคำสั่งซื้อทั้งหมดจบไปแล้วตั้งแต่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ตอนนี้จึงรอลุ้นประเมินสถานการณ์การอยู่ ถ้ายังยืดเยื้อเชื่อว่า ส่งผลกระทบต่อยอดขายปีหน้าแน่นอน เพราะคนสั่งซื้อกลัวไทย ส่งสินค้าให้ไม่ได้”       นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า  ภาพรวมทั้งปี 56 อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ จะขยายตัวในระดับ 2-3% จากปี 55 มีมูลค่าทางการตลาดกว่า 300,000 ล้านบาทโดยเป็นการเติบโตบรรจุภัณฑ์กระดาษที่ป้อนทั้งในและส่งออกเป็นหลักขณะ ที่สิ่งพิมพ์ในประเทศโดยเฉพาะหนังสืออ่านเล่นพกพาหรือพ็อคเก็ตบุ๊ค นิตยสาร หรือแมกกาซีนภาพรวม ลดลง20% เนื่องจากกำลังซื้อลดต่ำประกอบกับสิ้นปีเจอปัญหาการเมืองซ้ำทำให้ร้านค้าต่างๆ จำหน่ายได้ลดลง    สำหรับ คำสั่งซื้อปฏิทิน และสมุดบันทึกประจำวัน(ไดอารี่)ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองเนื่องจาก ส่วนบริษัท ห้างร้านต่างๆ ได้มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าไปแล้ว 2-3 เดือนเพื่อนำไปแจกเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยยังขยายตัวได้ในระดับ 10%  แต่สำหรับการ์ดอวยพร หรือส.ค.ส. มียอดขายที่ลดลง 20%จาก ปีที่แล้วและจะลดลงไปอีกนับจากนี้เนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยได้เปลี่ยนไปโดย หันไปอวยพรผ่านอีการ์ด และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟน  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ยอดซื้อของขวัญ-ของชำร่วยวูบ

Posts related