นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ  รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้าย เกี่ยวกับโครงการศึกษาเพื่อจัดทำแนวทางการสนับสนุนมาตรการลดค่าครองชีพรถเมล์ รถไฟฟรีของประชาชนว่า ที่ประชุมเห็นว่าควรปรับรูปแบบการลดค่าครองชีพรถเมล์ฟรี และรถไฟฟรีในอนาคตใหม่เป็น 3 ทางเลือก คือ ยกเลิกมาตรการเดิมไปเลย หรือคงมาตรการเดิมไว้แต่เพิ่มการบริหารจัดการที่เหมาะสม หรือคงมาตรการเดิมแต่ทำแบบมีเงื่อนไขให้ใช้เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น   โดยกระทรวงจะต้องนำผลการศึกษาทั้ง 3ทางเลือกเสนอให้ ครม.ใหม่เป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์ผลดี และผลเสียเบื้องต้น เห็นว่า แนวทางที่ 3 มีความเหมาะสมมากที่สุด โดยเห็นว่ารัฐบาลควรดำเนินมาตรการดังกล่าวต่อไป แต่ควรกำหนดเงื่อนไขการให้บริการเฉพาะคนบางกลุ่มที่มีรายได้น้อยเท่านั้น  เช่น อาจมีการจัดทำคูปองแจกให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือจัดทำระบบสิทธิพิเศษการใช้บริการผ่านระบบตั๋วร่วม ซึ่งจะต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้งว่ารูปแบบได้จะเหมาะสมที่สุด นายจิระเสกข์ ตรีเมธสุนทร หัวหน้าภาควิชาวิทยาลัยการบริหารและจัดการ  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะ หัวหน้าโครงการฯ   กล่าวว่า จากการศึกษามาตรการลดค่าครองชีพด้านการเดินทางของ 18 ประเทศทั่วโลก จะเห็นว่าส่วนใหญ่ใช้แนวทางการให้บริการฟรีแบบมีเงื่อนไข เพราะเป็นแนวทางคุ้มค่ากับการสนับสนุนงบประมาณของรัฐบาลมากสุด  โดยรัฐบาลควรจัดแบ่งกลุ่มคนที่ให้ความช่วยเหลือออกเป็น  2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ใช้บริการฟรี ได้แก่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน60ปี และเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 120 เซนติเมตร  เป็นต้น  ขณะเดียวกันให้กลุ่มผู้ใช้บริการที่ได้รับส่วนลดค่าบริการในอัตราพิเศษ คือ กลุ่มนักเรียน นิสิต  นักศึกษา กลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนว่างงาน และ ทหารผ่านศึก  เป็นต้น  โดยในส่วนของกลุ่มคนมีรายได้น้อย อาจจะต้องมีการจัดทำทะเบียนให้ชัดเจนโดยอาจจำเป็นต้องขอข้อมูลรายละเอียดจากกระทรวงมหาดไทย ส่วนจะให้มีการส่วนลดในอัตราเท่าใดนั้นจะต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้ง “รัฐบาลควรคงมาตรการต่อไป เพราะให้ประโยชน์ต่อสังคมมากกว่าเงินลงทุนที่รัฐบาลสนับสนุน แต่ต้องเปลี่ยนมาใช้แนวทางการให้บริการฟรีแบบมีเงื่อนไขจึงจะคุ้มค่าสูงสุด  เพราะจะช่วยลดภาระงบประมาณได้เดือนละ 30% หรือเดือนละ 105 ล้านบาท  จากปัจจุบันที่ต้องจ่ายงบชดเชยให้ ขสมก.และ ร.ฟ.ท. เดือนละ 355 ล้านบาท” อย่างไรก็ตาม มาตรการลดค่าครองชีพรถเมล์และรถไฟฟรีของรัฐบาลได้ดำเนินมาแล้วรวม 12 ระยะเริ่มตั้งแต่ 1ส.ค. 2551-30ก.ย. 56 มีผู้ได้รับประโยชน์รวมทั้งสิ้น 897.05 ล้านคน แบ่งออกเป็นขสมก.722 ล้านคนและ ร.ฟ.ท.175.05 ล้านคน   และมีค่าใช้จ่ายจนสิ้นสุดระยะที่13   ณ วันที่31มี.ค. 57   รวมทั้งสิ้น 21,189.45 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ขสมก.15,533.84 ล้านบาท และรฟท. 5,655.61 ล้านบาท 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ระดมสมองยกเครื่องรถเมล์-รถไฟฟรี

Posts related