นายรังสรรค์   ศรีวรศาสตร์   ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ากรมสรรพากรได้ส่งมาตรการลดหย่อนภาษีที่เกิดจากรายจ่ายท่องเที่ยวภายในประเทศให้แล้วคาดว่าจะออกเป็นประกาศให้มีผลบังคับได้ในเดือนหน้า ก.ย.นี้ ทันทีเพราะก่อนหน้านี้ได้รับความเห็นชอบหลักการจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมาตรการลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวจะให้กับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งนี้บุคคลธรรมดาให้นำรายจ่ายจากการเข้าพักโรงแรมที่เสียภาษีการค้าถูกต้องหรือค่าใช้จ่ายจากการซื้อแพกเกจทัวร์จากบริษัทจัดพาเที่ยว มาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปีส่วนนิติบุคคลให้นำรายจ่ายค่าโรงแรมที่เกิดจากการจัดสัมมนาอบรมพนักงานผู้บริหารของบริษัทมาบันทึกเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าจากที่จ่ายจริงเพื่อมาหักลดหย่อนการเสียภาษีประจำปี อย่างไรก็ตามมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวให้มีผลทันทีหลังจากประกาศกรมสรรพากรมีผลบังคับใช้ซึ่งคาดว่าจะเป็นภายในเดือน ก.ย. นี้ จนถึง 31 ธ.ค.58 ทำให้สามารถหักลดหย่อยภาษีได้ถึง 2 ปีเพราะต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ได้รับปัญหากระทบจากปัญหาทางการเมืองในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะโรงแรมที่พักต่างๆ มีผู้เข้าพักลดลงมากคาดว่ามาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวจะทำให้การท่องเที่ยวใน 2 ปีนี้ กลับมาฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง สำหรับการมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวทางกรมสรรพากรประเมินว่าทำให้การเก็บภาษีบุคคลธรรมดาและภาษีนิติบุคคลลดลงเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบกับการภาษีในภาพรวมของประเทศเพราะกรมสรรพากรจะเก็บภาษีจากมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการลดหย่อนภาษี ก่อนหน้านี้ คสช. ได้ยกเว้นการขอวีซ่าเข้าไทยของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวหนึ่งของไทยเพื่อให้ชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นขณะที่มาตรการลดหย่อยภาษีท่องเที่ยวเป็นการกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวในไทยมากขึ้น  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐเคาะลดภาษีท่องเที่ยว2ปี

Posts related