นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบให้รัฐบาลไทยซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มเติมของบรรษัทประกันภัยต่อแห่งเอเชีย 6,822 หุ้น วงเงิน 6.822 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯหรือ 219 ล้านบาท เพื่อให้ครบ 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ตามสัดส่วนของประเทศไทยตามเจตนารมณ์เดิมตอนก่อตั้งบริษัทโดยให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อดำเนินการ หลังจากบรรษัทดังกล่าวมีผลขาดทุนจากการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์อุทกภัยของไทยในปี 54 ทั้งนี้กระทรวงการคลัง รายงานว่า ผลจากเหตุการณ์น้ำท่วมประเทศไทยเมื่อปี54 ทำให้บรรษัทประสบภาวะขาดทุนอย่างมาก โดยประมาณการณ์ วันที่ 31 มี.ค.56 มีผลขาดทุน 8,405ล้านบาท ซึ่งบรรษัทได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้ววันที่ 31 พ.ค.56 จำนวน 274.6 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯหรือ 2,890 ล้านบาทและยังมีภาระที่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัทประกันภัยไทยอีก 89.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ จากภาระดังกล่าวทำให้บรรษัทจำเป็นต้องเพิ่มทุนโดยขอให้ประเทศสมาชิก และสมาชิกสมทบการเพิ่มทุนเพื่อให้บรรษัทจ่ายค่าสินไหมทดทนและดำเนินการต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้มีความสำคัญมาก ต่อความสามารถในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับบริษัทประกันภัยไทยที่ทำประกันภัยต่อกับบรรษัทซึ่งบรรษัทยังมีภาระที่ต้องจ่ายค่าชดเชยสินไหมทดแทนให้กับบริษัทประกันภัยไทยอีกเกือบ90 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯจึงจำเป็นต้องเพิ่มทุน เพราะถ้าหากไม่ดำเนินการเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อเนื่องถึงประชาชน และผู้ประกอบการไทยที่ประสบความเสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปี54 ในฐานะผู้เอาประกันอีกด้วย ขณะเดียวกันการเพิ่มทุนครั้งนี้ยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ที่แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่ารัฐบาลตั้งใจจะแก้ไขปัญหาฐานะทางการเงินของบรรษัท โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพิ่มเติมให้ครบตามสัดส่วนของประเทศไทยซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้ประเทศสมาชิกอื่นได้ปฏิบัติตามด้วย ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้จัดทำความเห็นประกอบการพิจารณาว่าในด้านของแหล่งเงินที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนนั้น กระทรวงการคลังควรไปทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในรายละเอียดต่างๆนอกจากนี้กระทรวงการคลังยังควรไปหารือกับประเทศสมาชิกที่เป็นผู้ถือหุ้นสามัญอื่นถึงแนวทางปรับโครงสร้างการถือหุ้นและรูปแบบการบริหารจัดการของบรรษัทให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่มีเอกชนดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกันกับบรรษัทอยู่ทั้งในและต่างประเทศ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐเพิ่มทุนบรรษัทประกันภัยเอเซียรักษาชื่อเสียง

Posts related