พล.รต. นพดล เรืองสมัยรองหัวหน้าสำนักงานฝ่ายสังคมและจิตวิทยา ประสานงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่าคสช.ได้สั่งการให้กรมการท่องเที่ยวในฐานะผู้ให้ใบอนุญาตให้กับบริษัทนำเที่ยวและหน่วยงานที่จัดงานหรือจัดอีเวนท์ขายทัวร์เพื่อออกบูธขายทัวร์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นหากเกิดการขายทัวร์คุณภาพต่ำหรือ ขายทัวร์แล้วทิ้งนักท่องเที่ยวไม่รับผิดชอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากบริษัททัวร์ทำผิดแล้วปิดบริษัทหนีไปตั้งบริษัทใหม่เพื่อกลับมาหลอกลวงนักท่องเที่ยวซ้ำ   “กรมการท่องเที่ยวถือเป็นหน่วยงานรัฐที่ต้องรับผิดชอบต่อการฉ้อโกงหรือ การขายทัวร์คุณภาพต่ำจนกระทั่งก่อความเสียหายต่อนักท่องเที่ยว  จะอ้างว่าบริษัททัวร์ทำถูกต้องตามกฎระเบียบของกรมการท่องเที่ยวแล้วนั้นถือว่าไม่ถูกเพราะกรมนอกจากให้ใบอนุญาตจำเป็นต้องเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องคัดกรองผู้ประกอบการคุณสมบัติผู้ประกอบการผู้ถือหุ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการขายทัวร์ราคาถูกแล้วทิ้งนักท่องเที่ยวอีกจะให้ผู้เสียหายไปฟ้องร้องเอากับบริษัททัวร์นั้นๆมันคงไม่ถูกต้องดังนั้นกรมการท่องเที่ยวต้องเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องรับผิดชอบ”   ด้านพล.ตต.อภิชัยธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่าตำรวจท่องเที่ยวได้รับร้องเรียนว่าขณะนี้มีบริษัททัวร์ที่ตระเวนออกบูธและขายแพ็คเก็จทัวร์ตามงานกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อของผู้ก่อตั้งบริษัท และสถานที่ทำการอยู่ที่ บริษัทกระบี่ภูพระนางรีสอร์ทเกรงว่าจะสร้างความเสียหายเกิดขึ้นซ้ำรอบของกระบี่ภูพระนางรีสอร์ทเมื่อปลายปีก่อนที่ขายแพ็คเก็จทัวร์แล้วนักท่องเที่ยวไม่สามารถไปพักและเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์นั้นได้ดังนั้นหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตให้กับบริษัททัวร์ คือกรมการท่องเที่ยวคงต้องรับผิดชอบเพราะขั้นตอนการขออนุญาตคงถูกต้องแต่วงเงินที่จะคุ้มครองความเสียหายคงไม่เพียงพอกรมการท่องเที่ยวอาจจำเป็นต้องเพิ่มวงเงินขอใบอนุญาตให้สามารถเป็นหลักประกันเพื่อจ่ายชดเชยให้กับนักท่องเที่ยวหากบริษัททิ้งนักท่องเที่ยว   นายสุวัตร สิทธิหล่อปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงได้ทำการติดตามปัญหานี้มาโดยตลอดแต่สิ่งสำคัญก็คือผู้บริโภคที่อยากจะซื้อทัวร์จะต้องตรวจสอบเบื้องหลังการจดทะเบียนต่างๆให้แน่ชัดว่ามีการสวมรอย หรือเพียงแค่เปลี่ยนชื่อบริษัทหรือไม่เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะเสียผลประโยชน์ก็คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวเองซึ่งหากจะตรวจสอบ ผู้บริโภคสามารถโทรไปสอบถามที่ คอลเซ็นเตอร์ของกรมการท่องเที่ยวที่เบอร์ 02-4011111 ได้โดยตรงเพราะกรมจะเป็นผู้เก็บข้อมูลของบริษัทนำเที่ยวที่ผิดกฎหมาย หรือเคยหลอกลวงนักท่องเที่ยวมาก่อน   ส่วนในอนาคตหากมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกและคสช.มีแนวทางอยากให้กรมการท่องเที่ยวเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าเสียหายกับผู้บริโภคนั้นสามารถทำได้ แต่จะต้องดูเป็นรายกรณีไป ซึ่งหากยกตัวอย่างในกรณีของ ภูพระนางรีสอร์ทที่มีรายชื่อทำทัวร์หลอกลวงอยู่แล้ว กรมการท่องเที่ยวสามารถรับผิดชอบได้ทันทีแต่หากบางบริษัททัวร์รายอื่นๆที่ยังไม่มีรายชื่อว่าเคยทำผิดกฎหมายมาก่อนก็จะต้องเช็คความเป็นมาให้ดี มิฉะนั้นอาจเป็นมิจาชีพหวังผลเข้ามาได้   ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพเกสรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า แนวทางการแก้ปัญหาจะเรียกผู้จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวต่างๆ มาหารือร่วมกัน เบื้องต้นเพื่อให้ส่งรายชื่อบริษัททัวร์ที่จะออกบูธในงาน ให้กรมตรวจสอบก่อนเพื่อจะได้รับทราบว่าบริษัทนั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ หรือมีปัญหาอะไรที่น่าสงสัยจนไม่น่านำบริษัทนั้นๆ เข้าร่วมงาน ถือเป็นการคัดกรองช่วยแก้ปัญหาซ้ำซากได้ขณะเดียวกันกรมและผู้จัดงานต้องร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนศึกษารายละเอียดข้อมูลของบริษัทที่ต้องการจะซื้อแพคเก็จทัวร์ด้วยเพื่อป้องกันเกิดปัญหาถูกหลอกต่างๆ ตามมา อย่างไรก็ตาม กรมฯ อาจขอความเห็นจากบริษัททัวร์เพิ่มวงเงินประกันสำหรับบริษัทที่ต้องการจดทะเบียนเปิดกิจการช่วยป้องกันกลุ่มหวังผลประโยชน์ที่ลงทุนจดทะเบียนด้วยวงเงินต่ำแต่นำใบจดทะเบียนไปใช้หลอกลวงนักท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้ากระเป๋าหลายเท่าตัว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ล้อมคอกทัวร์คุณภาพต่ำ

Posts related