นายชาย ศรีวิกรม์นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ อยากให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกการใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)เนื่องจากส่งผลกระทบต่อธุรกิจในละแวกราชประสงค์ หลังจากประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยอดการใช้จ่ายในย่านเริ่มลดลง โดยเฉพาะอัตราการใช้บัตรเครดิตจับจ่ายสินค้าลดลง30-40% ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่างชาติก็เริ่มปรับลดลงเช่นกัน ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเดินทางเข้ามาในประเทศเนื่องจากไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ รวมทั้ง การประกันภัยท่องเที่ยวของชาวต่างชาติไม่รองรับเหตุที่เกิดขึ้นจากการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกด้วย อย่างไรก็ตาม วงเงินสะพัดในย่านราชประสงค์ช่วงตั้งแต่มีการชุมนุมในบริเวณมีมูลค่าลดลงเหลือเพียงวันละ 150 ล้านบาท จากเดิมที่วันละ 300 ล้านบาทโดยยอดการใช้บริการของของโรงแรมลดเหลือเพียง 20% จากช่วงอื่นๆที่ใช้บริการเกือบเต็มอัตราแต่ปัจจุบนยอดการใช้บริการทั้งศูนย์การค้าหรือโรงแรมในช่วงหลังจากมีการชุมนุมมาระยะหนึ่งเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลักจากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวรวมถึงการให้ข้อมูลการเดินทางเพื่ออำนวยความสะดวกทำให้เกิดความเชื่อมั่นและลูกค้าบางส่วนเริ่มกลับมา   การประกาศพ.ร.ก. ฉุกเฉินทำให้คนภายนอกมองว่าเหตุการณ์ทางการเมืองรุนแรงมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา แต่พอใช้พ.ร.ก.ก็ทำให้ต่างชาติกังวลอีกครั้งและหากการชุมนุมยืดเยื้อต่อไปจะส่งผลกระทบต่อทั้งระบบ ธุรกิจนำเข้าสินค้าหรือร้านค้าต่างๆ ก็จะกระทบเพราะไม่มีคนซื้อสินค้า เงินลงทุนก็จมหายและอาจต้องปิดบริการ พนักงานก็จะไม่มีงานทำ แล้วก็จะกระทบไปยังส่วนอื่นๆไปหมดหรือพนักงานที่ทำงานบริการที่ตอนนี้บางส่วนต้องให้ลาพักร้อนเพื่อลดจำนวนพนักงานตามจำนวนลูกค้าที่ลดลงซึ่งหากยืดเยื้อนานเกิน 2 เดือนน่าจะมีผลกระทบที่รุนแรงขึ้นแน่นอน”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : วอนรัฐยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน

Posts related