นายนพพรเทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออกฯเตรียมเสนอยุทธศาสตร์ส่งออกไทยให้รัฐบาลพิจารณาผลักดันการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติโดยให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาทุกอย่างแบบบูรณาการ  เพื่อปรับโครงสร้างการส่งออกไทยให้มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันได้โดยเนื้อหาการพัฒนาการส่งออกไทยเน้น ยกระดับการค้าระหว่างประเทศของไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการค้า และการผลิตที่สร้างมูลค่าเพิ่ม “การผลักดันให้มีการเขื่อมโยง ระหว่างอุตสาหกรรมต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ ในระดับภูมิภาคเพื่อการส่งออกซึ่งร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้มีการเสนอแผนรายอุตสาหกรรม 13 อุตสาหกรรมหลักเช่น อุตสาหกรรมยางพาราและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ และยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นต้น” นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการปรับโครงสร้างในภาคการส่งออกของไทยตั้งแต่การปรับระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานการอำนวยความสะดวกทางการค้าและกฎระเบียบต่างๆการพัฒนาบุคลากรด้านการส่งออกและแรงงานรวมทั้งยกระดับการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน นายนพพร กล่าวว่า การส่งออกเดือน ต.ค. ปีนี้ มีมูลค่า 19,393.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน0.67% เมื่อรวม 10 เดือนที่ผ่านมายังอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้นคาดว่าในปี 56การส่งออกไทยน่าจะขยายตัวในระดับ 0.5% จากเดิมที่ตั้งเป้า 1%  ส่วนในปี 57คาดว่าการส่งออกไทยจะขยายตัวในระดับ 5%เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในระดับดี “สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นทั้งในส่วนของสหรัฐ ยุโรป   ส่วนศรษฐกิจจีนและเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับปี56  อย่างไรก็ตามแม้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัวแต่ในภาพรวมเชื่อว่าจะมีทิศทางเป็นบวกเช่นกัน”   นางนันทวัลย์ ศกุนตนาคอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้การขายออนไลน์ในประเทศออสเตรเลียกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงเกิดจากช่องทางการขายออนไลน์ที่ปัจจุบันได้พัฒนามาอยู่บนโทรศัพท์มือถือเพราะอัตราการครอบครองสมาร์ทโฟนสูงขึ้นเรื่อยๆ  ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีของไทยในการค้าออนไลน์ ซึ่งกรมฯจะเร่งเข้าไปส่งเสริมให้ทำตลาดช่องทางดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สภาผู้ส่งออกฯ ฟันธงปีนี้ส่งออกโต 0.5%

Posts related