นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯได้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ปีงบประมาณ 57 เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด หลังจากตัวเลขการจัดเก็บรายได้ในช่วง 6 เดือนแรก ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 10% รวมทั้ง ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น โดยให้ตรวจสอบในรายสินค้าที่ยังดำเนินการที่หย่อนยาน โดยเฉพาะการเพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบภาษี และการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงภาษี โดยเฉพาะสินค้าประเภทสุรา เบียร์ และบุหรี่ จากต่างประเทศ ซึ่งได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการ และให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด “ตอนนี้หลักการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต คือเก็บจากราคาหน้าโรงงาน ดังนั้นโอกาสในการรั่วไหลของภาษีค่อนข้างน้อยอยู่แล้วจึงไม่เป็นห่วงเรื่องนี้มากนัก แต่ได้ให้ไปเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบภาษี และการลักลอบนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มตัวเลขการจัดเก็บของกรมฯ ได้บ้าง แม้จะไม่มากก็ตาม” ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 57 กรมฯประเมินว่า จะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4-5% หรืออยู่ที่ 430,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ 463,000 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจและการใช้จ่ายประชาชนชะลอตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเริ่มมีความกังวลและลดการบริโภคลงจากปัญหาการเมือง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจัดเก็บภาษีจากสินค้าอุปโภคบริโภคของกรม โดยเฉพาะภาษีจากเครื่องดื่มต่าง ๆ แต่เชื่อว่าครึ่งหลังของปีนี้การเมืองน่าจะคลี่คลายได้ดีขึ้น จะช่วยสนับสนุนการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สรรพสามิตตั้งคณะทำงานติดตามเก็บภาษี

Posts related