น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค. กำลังติดตามสถานการณ์ของภาคการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ภายหลังการประกาศกฎอัยการศึก โดยเบื้องต้นประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวจะส่งผลกระทบกดดันภาคการท่องเที่ยวของไทยให้ได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่ง สศค.เตรียมปรับประมาณการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในปีนี้ลง ในเดือน มิ.ย.นี้ จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 28 ล้านคน เพราะมีผลถึงรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยในปีนี้ด้วย “ที่ผ่านมารายได้จากภาคการท่องเที่ยวคิดเป็น 9-10% ต่อจีดีพี ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีปัจจัยลบที่ส่งผลต่อภาคท่องเที่ยวอย่างมาก ตั้งแต่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้หลายประเทศออกคำเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย แต่เมื่อมีการยกเลิกใช้กฎหมายดังกล่าว สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นบ้างในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องมาถูกกระทบอีกจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้” ขณะเดียวกัน ภาพรวมการลงทุนจากต่างชาติก็เริ่มน่าเป็นห่วงด้วยเช่นกัน เนื่องจากต่างชาติเริ่มขาดความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในไทย เพราะตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมามีปัจจัยลบ จากปัญหาการเมืองเข้ามากดดันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการไม่มีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ต่างชาติเริ่มเกิดความกังวล และไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้บางส่วนยังชะลอการลงทุนออกไป แต่ก็มีบางส่วนที่เริ่มถอนการลงทุนออกไปด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้รวมถึงการลงทุนในประเทศด้วย สำหรับการประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาสแรก ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ที่ติดลบ 0.6% นั้น ใกล้เคียงกับที่ สศค. คาดการณ์ไว้ที่ ติดลบ 0.2-0.3% เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อไม่มีข้อยุติ ส่วนในไตรมาส 2 ปี 2557 หวังว่าสถานการณ์การเมืองจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าหลายภาคส่วนคาดหวังว่าการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้น่าจะช่วยให้ปัญหาความขัดแย้งที่มียุติลงได้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ภาคเศรษฐกิจกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้นได้ “ขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของไทยคือการมีรัฐบาลจริงที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้ ทั้งการใช้จ่าย การบริโภค การลงทุน รวมถึงการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งในส่วนนี้ สศค. จะยังคงติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และจะปรับประมาณการณ์จีดีพี ตัวเลขการส่งออก รวมถึงการลงทุนและท่องเที่ยวใหม่อีกครั้งในช่วงเดือน มิ.ย. นี้”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สศค.จับตาภาคท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด

Posts related