นางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง เปิดเผยภายการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการคลังกับ 3 กรมภาษี คือกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากรว่า ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เพื่ออุดช่องว่างการหลบเลี่ยงและการฉ้อโกงภาษี ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันทั้งระบบ จะได้รู้ว่าตรงจุดไหนมีรูรั่วไหลบ้าง เนื่องจากปัจจุบันพบว่า ผู้หลีกเลี่ยงภาษีมีการพัฒนารูปแบบ มีวิธีการสลับซับซ้อนมากขึ้น และยากต่อการตรวจสอบ เช่น ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าสำแดงราคากับกรมศุลกากรต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อเสียภาษีให้น้อยลง แต่เมื่อยื่นแบบเสียภาษีกับกรมสรรพากรมีการบันทึกซื้อสินค้าราคาสูง เพราะต้องการสร้างรายจ่ายให้มากจะได้เสียภาษีลดลง เป็นต้น ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กลุ่มธุรกิจใดที่จะเข้าไปตรวจสอบเป็นพิเศษ และจะทำให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจและประชาชนเสียภาษีตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น โดยกระทรวงการคลังจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อดูแลในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตัวเลขการจัดเก็บภาษีในเดือนต.ค.56 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 57 ลดลง 1,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการนำเข้าลดลง 10% จากเดิมประมาณการณ์ว่านำเข้าเติบโต 13.3% ขณะที่ปีก่อนเติบโตถึง 16.6% ซึ่งสินค้าที่ลดลง เช่น รถยนต์ โดยอาจเป็นผลมาจากปีก่อนหน้านี้มีโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้ยอดซื้อรถยนต์ไม่เพิ่มมากนัก รวมถึงเครื่องจักรกล สุราและไวน์ ทำให้การจัดเก็บภาษีพิกัด 84 และพิกัด 87 ลดลงตามไปด้วย ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมากรมศุลกากรเข้มงวดการนำเข้ารถยนต์หรูจากกลุ่มผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์มาเก็ต ขณะที่รถจะประกอบได้ห้ามนำเข้าเช่นกันจึงส่งผลต่อการนำเข้าอะไหล่รถยนต์ลดลง และทำให้กรมฯสูญรายได้จากการจัดเก็บภาษีถึง 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จึงมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสินค้าประเภทอื่น เช่น สุรา ไวน์ และบุหรี่มาทดแทนรายได้ที่หายไป เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษีด้วยการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงมีจำนวนมาก ส่วนการนำเข้ารถยนต์ของเกรย์มาเก็ตนั้น จะต้องเสียภาษีในระบบราคาแกตต์หรือสะท้อนราคาที่แท้จริง โดยการทำงานจะต้องดำเนินตามนโยบายของนางเบญจาอะไรที่ผิดจะไม่ให้เกิดขึ้นในกรมศุลากร

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เชื่อมโยงข้อมูล3กรมจัดเก็บรายได้อุดช่องโหว่เลี่ยงภาษี

Posts related