นายสุรศักดิ์เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยถึงความคืบหน้าการขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่า ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างการเจรจาขายข้าวจีทูจีให้กับหลายประเทศ เช่น อิรัก อิหร่านอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น แต่มีความเป็นไปได้ที่จะขายให้กับอินโดนีเซียเพราะมีความต้องการจำนวนมากถึง 600,000 ตัน ซึ่งเป็นข้าวขาว 15% ส่วนอิหร่านน่าจะขายข้าวขาวให้อีก 250,000 ตัน  ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ แม้ว่าเพิ่งจะมีการประมูลนำเข้าข้าวขาว500,000 ตันไปและเวียดนามชนะการประมูลด้วยราคาต่ำกว่าไทยมากแต่ในอนาคตไทยยังมีโอกาสที่จะขายข้าวให้กับฟิลิปปินส์ได้อีก                 นอกจากนี้ภายในเดือนธ.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดประมูลข้าวเป็นการทั่วไปอีกประมาณ 200,000-300,000 ตันและจะเปิดประมูลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรแห่งประเทศไทย (เอเฟต)ในปริมาณใกล้เคียงกัน เพื่อระบายข้าวออกจากสต๊อก และนำเงินมาส่งคืนกระทรวงการคลังโดยคาดว่า ภายใน 2 เดือนคือตั้งแต่เดือนธ.ค.56-ม.ค.57จะนำเงินส่งคืนคลังได้อีกประมาณ 25,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่คาดในเดือนต.ค.-ธ.ค.56 จะคืนเงินได้ราว 30,000 ล้านบาท             นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่าขณะนี้กำลังเจรจาขายข้าวรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)กับอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์  น่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้และยังเดินหน้าในการเปิดเจรจาขายข้าวในสต็อกรัฐบาล ซึ่งมีเหลือไม่มากนักแม้จะมีสต็อก 16 ล้านตันแต่กว่าครึ่งหรือ 8 ล้านตัน ก็มีภาระผูกพันไว้แล้ว อีก 8ล้านตัน ส่วนนี้ก็เป็นต้นข้าวเพียง 5 ล้านตัน ซึ่งโครงการรับจำนำข้าวนาปี 56/57ปรับให้โรงสีสีแปรข้าวเปลือกส่งมอบเฉพาะต้นข้าวสาร ไม่ต้องส่งปลายข้าวและรำข้าวก็จะทำให้ปริมาณข้าวเข้ารัฐไม่มาก  แนวโน้มความต้องการข้าวโลก มีแนวโน้มสูงขึ้นในปี 57และมั่นใจหากไม่มีปัญหาขัดแย้งในประเทศเชื่อว่าสต็อกข้าวที่เหลือจะมีภาระผูกพันเกือบหมด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เดินหน้าขายข้าว

Posts related