ถือว่าการนั่งตำแหน่งปลัดไอซีทีของ “เมธินี เทพมณี” จะทำให้หญิงเก่งคนคุ้นเคยกับข้าราชการกระทรวงไอซีทีไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน แต่การพิสูจน์ฝีมือช่วงรักษาการปลัดและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีขณะเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงไอซีทีก็ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไว้ใจและให้นั่งบริหารงานต่อ นางเมธินี เทพมณี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เล่าว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไอซีทีต้องได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการใช้ไอซีทีให้คุ้มค่า เพราะเทรนด์การใช้งานในภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโต แต่สิ่งสำคัญคือ การสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีโดยคนไทย โดยแผนแม่บทไอซีที ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2557-2561 กระทรวงไอซีทีจะต้องมาดูว่าใน 5 ปีต่อจากนี้ ไทยจะมีบทบาทอย่างไรเพื่อกำหนดกติการ่วมกันทั่วโลก เพื่อให้สามารถเข้าสู่การแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จะต้องเริ่มตั้งแต่การพัฒนาคน โดยร่วมกับกระทรวงศึกษาด้วยการพัฒนาหลักสูตร    โดยเน้นในเรื่องของไอที สร้าง  นักพัฒนาไอที ลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศโดยการควบคุมของรัฐบาล สำหรับในส่วนของภาคประชาชน ซึ่งจากสถิติประเทศไทยถือว่ามีตัวเลข    การใช้สมาร์ทโฟนเติบโตระดับ    ต้น ๆ ของโลก แต่การใช้งาน ยังมีขีดจำกัดโดยเฉพาะการเข้าอิน เทอร์เน็ต ดังนั้น กระทรวงไอซีทีจะต้องดูว่าการใช้งานคุ้มกับการลงทุนมากน้อยเพียงใด โดยมีการใช้งานกี่เปอร์เซ็นต์ หากเทียบการลงทุน ขณะที่งบประมาณปี 2558 กระทรวงไอซีทีได้รับ   งบจำนวน 5,723.7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.2% ของงบประมาณทั้งหมด ลดลงจากงบประมาณปี 2557 จำนวน 3,733.7 ล้านบาท โดยงบที่ลดลงเนื่องจากโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ไวไฟ) ในโรงเรียนถูกโอนไปอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการ “กระทรวงไอซีที ต้องคุยกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อไม่ให้การปล่อยอินเทอร์เน็ต หรือ ไวไฟ ต้องเสียเปล่าตามโครงการไวไฟฟรี ตามแผนบรอด แบนด์แห่งชาติ” สำหรับหน่วยงานในสังกัดอย่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นั้น กระทรวงไอซีทีจะเข้าหารือกับนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ถึงแนวทางการปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจในสังกัด 2 แห่งให้สามารถเลี้ยงตัวเองและทำธุรกิจต่อไปได้ เพราะปัจจุบันทั้ง 2 องค์กรจะไม่มีรายได้จากสัญญาสัมปทานมือถืออีกต่อไป ซึ่งถือเป็นโจทย์สำคัญที่กระทรวงไอซีทีในฐานะกระทรวงต้นสังกัดต้องดำเนินการให้เห็นชัดเจน โดยเริ่มจากการปรับองค์กรให้เล็กลงมีความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น “ในฐานะแม่ ก็ต้องอยากให้ลูก ๆ มีความคล่องตัว ธุรกิจไหนที่ดูเหมือนจะมีการบริการที่ซ้ำซ้อนก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนให้คล่องตัว นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการแก้กฎระเบียบทุกอย่างที่จะทำให้แข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้” นางเมธินี เล่าว่า ทีโอที และ กสท จะต้องเน้นการเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายที่ถือเป็นจุดแข็งของทั้ง 2 องค์กร แล้วให้เอกชนเช่าใช้ ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ช่วยทีโอทีและกสท ได้ดีกว่าการพยายามทำการตลาดด้านบริการลูกค้าแข่งกับเอกชน ถือเป็นงานหินของเจ้ากระทรวงไอซีทีที่จะบริหารจัดการ    “ทีโอที-กสท” ให้อยู่ในการควบคุม ต้องจับตาดูว่าปลัดไอซีทีจะล้วงลึก 2 รัฐวิสาหกิจนี้ได้มากน้อยเพียงใดในยุค คสช. กัญณัฏฐ์ บุตรดี Kanyanat25@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เปิดใจ‘เมธินี’ปลัดไอซีทียุค คสช.

Posts related