นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออกไทยลดเป้าการส่งออกไทยในปี 56 จาก 2.5% เหลือ 1% เนื่องจากตัวเลขการส่งออกรวม 3 ไตรมาสแรกของปี (ม.ค.-ก.ย. 56) มีมูลค่าเพียง 172,139.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพียง 0.05% โดยเฉพาะในเดือน ก.ย. ที่มีมูลค่าเพียง 19,303.7ล้านเหรียญฯ ลดลง 7.09% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก”แนวโน้มแต่ละเดือนจะสามารถทำให้ได้ถึงเป้า19,800-20,000 ล้านเหรียญฯ แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน เพราะของเรื่องของสถานการณ์ซัดดาวน์ของสหรัฐฯยังยืดเยื้ออยู่ถึงเดือน ก.พ. ปีหน้า ส่วนเรื่องการเมืองในประเทศไม่น่าจะมีผลต่อการส่งออกในปีแล้ว แต่หากสถานการณ์การทางการเมืองยืดเยื้อหรือรุนแรงมีการปิดสถานที่ใช้ขนส่ง โลจิสติกส์ ก็อาจส่งผลกระทบไปยังการส่งออกของปีหน้าได้”นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งออกในปี 56 คาดว่าอย่างมากที่สุดคงโตได้มากที่สุดเพียง 1-1.2% เท่านั้น แต่โดยส่วนตัวมองว่าการส่งออกที่ติดลบในช่วงนี้เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ เนื่องจากในหลายๆประเทศทั่วโลกสถานการณ์การส่งออกก็แย่เช่นเดียวกัน และการที่การส่งออกไทยโตได้ไม่มากก็เป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจของคู่ค้าของไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตามไทยก็ควรผลักดันการส่งออกพวกชิ้นส่วนไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มยายนต์ให้มาก เพราะสินค้าทั้ง 3 กลุ่มคิดเป็น 40% ของการส่งออก และเชื่อว่าสินค้าในกลุ่มดังกล่าวจะเป็นตัวแปรสำคัญของการส่งออกไทยด้วย ส่วนสินค้าเกษตรก็เชื่อว่าจะค่อยๆผ่อนคลายและดีขึ้นในช่วงปีหน้า”การส่งออกในปีนี้คงคาดการณ์อะไรไม่ได้มากแล้ว หากแต่ละเดือนส่งออกได้ 20,000 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจะทำให้การส่งออกขยายตัวได้มากสุด 1.27% ส่วนในปี 57 ส่งออกน่าจะดีขึ้น เพราะสหรัฐและกลุ่มประเทศยุโรปน่าจะฟื้นตัวได้เรื่อยๆ ส่วนญี่ปุ่นก็น่าจะดีขึ้นเพราะรัฐบาลมีการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบแล้วค่อนข้างมาก”นอกจากนี้ยังมองว่า รัฐบาลควรทำตามคำแนะนำของสภาผู้ส่งออกฯที่ได้มัการเสนอให้ทำเรื่องของการปรับโครงสร้างด่านตามชายแดน การทำเขตการค้าฟรีโซน เพื่อจะช่วยเป็นอีกหนึ่งทางในการช่วยผลักดันตัวเลขส่งออกให้มีการขยายตัวด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนลดเป้าส่งออกเหลือ 1%

Posts related