นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยถึงสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองไทยขณะนี้ว่า แอตต้ากังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ปรับเพิ่มรายได้ใหม่เป็น 20% โดยอาจจะไม่ถึงตามเป้าหมายดังกล่าว แต่อาจทำได้เพียง 13% ตามเป้าหมายเดิมเท่านั้น รวมทั้งกระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวไทย ซึ่งผู้ประกอบการบริษัททัวร์ต่างรอดูสถานการณ์ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไรบ้าง “ระยะสั้นนี้ อาจมีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น หรือชาวจีน ที่วางแผนท่องเที่ยวในช่วงนี้ แต่ในส่วนของนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังไม่ค่อยเห็นผลกระทบมากนัก เพราะส่วนใหญ่วางแผนไว้ล่วงหน้าระยะยาว อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ได้แจ้งให้สมาชิกติดตามเส้นทางการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อให้เลี่ยงเส้นทางเหล่านั้น ทั้งที่สามเสน อุรุพงษ์ สีลม สวนลุม แต่หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยวในปีหน้าได้ โดยมองว่า สถานกาณ์ทางการเมืองมีส่วนทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางการท่องเที่ยวลงเรื่อย ๆ โดยต่างชาติเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ และสมาชิกเริ่มโทรสอบถามเข้ามาบ้างแล้ว” ด้านนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า สทท.กำลังติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด โดยใช้โอกาสในการเข้าร่วมงานเวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต ซึ่งเป็นเทรดโชว์ส่งเสริมการขายรายการใหญ่ที่สุดของโลก ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นเวทีชี้แจง สร้างความมั่นใจกับคู้ค้าบริษัทนำเที่ยวจากฝั่งยุโรป เบื้องต้น ยังมั่นใจว่าสถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่ส่งกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยว และบริษัททัวร์เข้าใจสถานการณ์การชุมนุมของไทยว่าเป็นเรื่องการแสดงออกทางประชาธิปไตย อีกทั้งจุดหมายท่องเที่ยวของชาวต่างชาติส่วนใหญ่กว่า 70-80% ออกไปยังต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต สมุย กระบี่ และพัทยา ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ายังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก่อนจะประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในปีหน้าด้วยหรือไม่ นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการ ด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า ททท.ติดตามสถานการณ์ฯ อย่างใกล้ชิด และยอมรับว่า อาจมีผลกระทบต่อกำลังซื้อในประเทศ ที่ ส่วนใหญ่อาจจะรอดูความเคลื่อนไหวทางการเมืองก่อนที่จะตัดสินใจชะลอการจับจ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ และส่วนหนึ่งเบื่อการเมืองไทย อาจตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศแทน “ที่สำคัญไตรมาสสุดท้ายนี้ บรรยากาศการเดินทางของคนไทยยังเงียบเหงาลงไประดับหนึ่ง หลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสังฆราชฯ ทำให้อีเวนท์งานรื่นเริงต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้ฝ่ายในประเทศของ ททท. เลื่อนการจัดงานออกไป เช่น คอนเสิร์ตหลงรักทะเลดาว ที่หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี ซึ่งเลื่อนจากวันที่ 6 พ.ย.ไปเป็นวันที่ 13 ธ.ค.อย่างไรก็ตาม จากการประเมินเหตุการณ์ระยะสั้น คาดว่าจะยังไม่กระทบต่อเป้าหมายนักท่องเที่ยวคนไทย 129.51 ล้านคน/ครั้ง ทำรายได้ 6.42 แสนล้านบาท”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนหวั่นการเมืองทำนักท่องเที่ยวหด

Posts related