นายสารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์เปิดเผยในงานสัมมนาไทยกับการเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภาค 2เรื่องไทยกับการเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของเออีซี จัดโดยศูนย์อาเซียนศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ประเทศไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของเออีซีและของเอเชีย แต่ต้องพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตวัตถุดิบมากขึ้นซึ่งภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาส่งเสริมโดยกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาให้ชัดเจนกว่าปัจจุบัน เช่น อาจตั้งกองทุนด้านอาหารเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถมีเงินทุนไปเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและส่งเสริมงานวิจัยเพิ่มขึ้นทั้งนี้โอกาสของธุรกิจด้านอาหารของไทยในอนาคตแม้ว่าจะมีความท้าทายหลายอย่าง แต่ก็เป็นธุรกิจที่มีโอกาสสดใสมากที่สุดเพราะประเทศไทยมีเครดิต และมีความพร้อมความเชี่ยวชาญมานานขณะเดียวกันในอนาคตจำนวนประชากรของโลกจะเพิ่มขึ้นดังนั้นความต้องการอาหารจึงมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย“อีก 20 ปีข้างหน้าประชากรโลกจาก 7,000 ล้านคน จะเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านคน แม้ว่าจะส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกลดลงเพื่อนำไปใช้ทำกิจกรรมอื่น ซึ่งมีความเสี่ยงขาดแคลนอาหารแต่ก็แก้ปัญหาได้คือใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยเพิ่มผลผลิตเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งประเทศไทยเองต้องเร่งพัฒนาด้านการผลิตให้ทันสมัยสามารถเลี้ยงคนไทยและทำธุรกิจขยายไปต่างประเทศเพื่อเลี้ยงคนทั่วโลกได้ ขณะเดียวกันการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวควรต้องทำควบคู่ไปกับไม่ทำลชายสิ่งแวดล้อมด้วย”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เอกชนแนะรัฐตั้งกองทุนด้านอาหาร

Posts related