นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศ พิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยเป็นการชั่วคราว 6-12 เดือน เพื่อใช้เป็นหนึ่งในมาตรการเร่งด่วนกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยให้ฟื้นคืนรวดเร็ว โดยนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตลาดสำคัญอันดับ 1 ของไทย แต่ช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมาการเดินทางมาไทยกลับลดลงกว่า 50% ที่สำคัญนักท่องเที่ยวจีน ก็เริ่มเปลี่ยนเส้นทางไปเที่ยวญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์แทน ดังนั้นหากไทยไม่มีการจูงใจ อาจสูญเสียตลาดนักท่องเที่ยวจีนไปในระยะยาวได้"ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยว โดยหันไปเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น เพราะหลังจากเกิดเหตุเครื่องบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ เอ็มเอช 370 ซึ่งมีชาวจีนอยู่จำนวนมากตก จึงทำให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวไม่พอใจ และชะลอการนำชาวจีนไปมาเลเซีย ซึ่งได้กระทบต่อการท่องเที่ยวไทยด้วย เพราะบางแพ็คเกจได้ทำรวมเส้นทาง ไทย-มาเลเซีย-จีน อีกทั้งการที่ชาวจีนหยุดเที่ยวญี่ปุ่นมานาน ก็ทำให้เริ่มกลับไปท่องเที่ยวอีกครั้งเพิ่มจากเดิมเป็นเท่าตัว"นายศิษฎิวัชรกล่าวว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 57 อันดับแรกที่ลดลงมาก ได้แก่ ญี่ปุ่นลดลง 65% จีนลดลง 55% เกาหลีใต้ลดลง 40% รัสเซียลดลง 19% แต่ในจำนวนนี้มีเพียงจีนประเทศเดียวที่ยังต้องทำวีซ่าอยู่ หากงดเว้นค่าธรรมเนียมได้สักระยะหนึ่งคงดีมาก อีกทั้งมาตรการนี้เคยได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลสมัยนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการดึงนักท่องเที่ยวจากจีนให้กลับมา จากผลกระทบทางการเมืองในปี 53 ซึ่งก็ถือว่าได้ผลดีมากชาวจีนกลับมาท่องเที่ยวไทยอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องยกเว้นเป็นการชั่วคราว เพราะอาจกระทบต่อรายได้จากค่าวีซ่าเข้าประเทศที่เก็บได้สูงถึงคนละ 1,100 บาทอย่างไรก็ตามต้องการให้ คณะรัษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เร่งยกเลิก การประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เร็วที่สุด เพราะจะทำให้การฟื้นฟูตลาดกลับมาเร็วขึ้น เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นประตูด่านแรกที่นักท่องเที่ยวจีนและตลาดอื่นๆ จะเดินทางมา โดยใช้สนามบินสุวรรณภูมินายวิชิต ประกอบโกศล ประธานกรรมการบริหาร ซี.ซี.ที. กรุ๊ป ผู้ทำทำนักท่องเที่ยวชาวจีนรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า แนวคิดการอนุญาตให้มีฟรีวีซ่าในนักท่องเที่ยวจีนนั้น ควรจะต้องรอใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ หรือเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไม่สามารถหามาตรการกระตุ้นแบบอื่น ๆ ได้แล้ว แต่ขณะนี้แนวโน้มท่องเที่ยวในประเทศ ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้น แล้ว จึงมองว่ายังไม่จำเป็นใช้มาตรการฟรีวีซ่าในขณะนี้ เพราะหากไทยอนุมัติไปโดยไม่จำเป็นนัก อาจจะเสียหายด้านความมั่นคงในประเทศได้ โดยขณะนี้รัฐบาลควรจะหันมาเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีน ผ่านการเจรจากันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจีน น่าจะได้ผลดีมากกว่า“ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 54 นักท่องเที่ยวจีนเติบโตไปแบบก้าวกระโดดมาก แต่ปีนี้เมื่อมีเหตุการณ์ทางการเมือง 6 เดือนแรกของปีนักท่องเที่ยวจึงลดการมาไทย และก็หันกลับไปเที่ยวญี่ปุ่น และไต้หวันแทน ซึ่งจริง ๆ หากสร้างความเชื่อมั่น จัดโปรโมชั่นดึงดูด นักท่องเที่ยวจีนก็พร้อมที่จะกลับมาอยู่แล้ว ตอนนี้เราจึงต้องรีบหามาตรการให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องวีซ่าก็ไม่จำเป็นมากนัก และคาดว่า ไตรมาส 3 จีนจะเข้ามาไทยได้เท่ากับปีที่ผ่านมาหรืออาจจะลดลงไม่เกิน 20% และจะพุ่งสูงสุดในไตรมาส 4 ที่จะเติบโตได้มากถึง 30-50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนตลอดปีน่าจะอยู่ที่ 4 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ ททท.คาดการณ์ไว้ที่ 4.5 ล้านคน”นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ญี่ปุ่น กล่าวว่า ทุกภาคส่วนของเอกชนที่ดูแลการท่องเที่ยว คิดว่า การให้ค่าฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรจทำหลังจากยกเลิกเคอร์ฟิวไปแล้ว และใช้มาตราการนี้เป็นตัวกระตุ้นเสริมอย่างเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการดีเห็นได้จากการใช้มาตรการนี้ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ผลดี

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนะฟรีวีซ่าจีนกระตุ้นท่องเที่ยว

Posts related