นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู   กรรมการรองผู้จัดใหญ่  ธนาคารกรุงเทพ  เปิดเผยว่า  ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจะทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น  แต่จะมากน้อยแค่ไหนนั้น ต้องดูการส่งออก และการลงทุนของเอกชน รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้ก่อน  โดยสินเชื่อที่ลูกค้าขอใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการมากกว่าการขยายการลงทุน  ส่วนการประกาศนโยบายด้านการลงทุนของภาครัฐ เช่น รถไฟรางคู่นั้น อาจต้องใช้เวลาในการประมูลและจะเห็นผลชัดเจนเป็นช่วงต้นปี 58 ว่า  การใช้เงินลงทุนจะมีสัดส่วนเท่าไหร่  สำหรับเป้าหมายสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้ตั้งไว้ 5-6%  ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นไปตามเป้าที่วางไว้   “ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และผู้ประกอบการธุรกิจเริ่มกลับคืน จากเดิมที่สินเชื่อติดลบในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาดีขึ้นและถือว่าผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ส่วนกำลังการผลิตของผู้ประกอบการบางอุตสาหกรรมเริ่มกลับมาดีขึ้น และได้ขอวงเงินสินเชื่อเพิ่ม เช่น พลังงานทดแทน แต่อาจจะไม่มากนัก ส่วนธุรกิจที่มีแนวโน้มดี เช่น  ท่องเที่ยวและส่งออก หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และยุโรปเริ่มเป็นบวกมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังไม่ดีขึ้น  ด้านการค้าระหว่างกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และเวียดนามยังไปได้ดีเชื่อว่าจะช่วยผลักดันการส่งออกให้เติบโตได้ต่อเนื่อง” นางนุสรา รุนสำราญ  รองกรรมการผู้จัดการ  ธนาคารธนชาต  กล่าวว่า เน้นให้สินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายกลางมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีโอกาสที่จะเติบโตเป็นธุรกิจรายใหญ่   โดยปัจจุบันมีรายได้อยู่ที่ 1,000-4,000 ล้นบาทต่อปี  ส่วนลูกค้ารายใหญ่เชื่อว่าเริ่มจะมีการขยายการลงทุนเพิ่ม  หลังจากมีความชัดเจนด้านเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นคาดว่าจะส่งผลให้การขอสินเชื่อในช่วงที่เหลือของปีขยายตัวเช่นกัน  และมั่นใจว่าสินเชื่อในปีนี้ยังเติบโตประมาณ 10%

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แบงก์มั่นใจศก.ฟื้นพาเหรดคงเป้าสินเชื่อ

Posts related