นางนิศา ศรีสุวรนันท์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วม สำหรับการจัดทำการศึกษาร่วม ถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ตุรกีครั้งที่ 2 เพื่อติดตามความคืบหน้า ถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำเอฟทีเอระหว่างกัน ซึ่งพบว่าการทำเอฟทีเอไทย-ตุรกี จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และไทยยังสามารถใช้ตุรกีเป็นประตูไปสู่ยุโรป จากการที่ตุรกีเป็นสหภาพศุลกากรเดียวกันกับสหภาพยุโรป (อียู) ขณะที่ตุรกีสามารถใช้ไทยเป็นประตูไปสู่อาเซียนได้เช่นกันทั้งนี้ ไทยได้จ้างมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำการศึกษาร่วมของฝ่ายไทย ส่วนตุรกีได้มอบให้กระทรวงเศรษฐกิจศึกษา โดยผลการศึกษา พบว่าในแง่การค้านั้น สินค้าไทยจะได้ประโยชน์มากกว่าฝ่ายตุรกี โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนและการจ้างงาน ซึ่งสินค้าที่คาดว่าไทยจะได้ประโยชน์ ได้แก่ อาหารพลาสติก ตู้เย็น ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางและผลิตภัณฑ์ และสิ่งทอ ส่วนสินค้าที่คาดว่าตุรกีจะได้รับประโยชน์ ได้แก่ หินอ่อน เครื่องเพชรพลอย และรูปพรรณเครื่องนุ่งห่ม ตู้เย็น และยานยนต์“ทั้งสองฝ่ายต้องศึกษาเกี่ยวกับกฎระเบียบ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้า ก่อนที่จะสรุปผลการศึกษาในภาพ รวมเสนอให้ระดับนโยบายตัดสินใจต่อไป โดยคาดว่า จะสามารถจัดทำการศึกษาร่วมให้แล้วเสร็จได้ภายในปีนี้”นางนิศา กล่าวว่า ปัจจุบัน ตุรกีเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจของไทย โดยเป็นตลาดที่มีโอกาส เนื่องจากมีประชากรมากกว่า 80 ล้านคนและยังเป็นประเทศที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากมีที่ตั้งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชีย ยุโรป และอดีตสหภาพโซเวียต รวมถึงมีพรมแดนติดต่อกับประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทำให้ไทยสามารถใช้ตุรกีเป็นประตูการค้าไปยังภูมิภาคต่าง ๆ เช่น สหภาพยุโรป และยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมทั้งกลุ่มประเทศบอลข่าน“ในปี 56 ตุรกีเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 39 ของไทย และเป็นอันดับที่ 7 ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง จากสถิติการค้าไทย-ตุรกี ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (52-56) ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ากับตุรกีมาโดยตลอด โดยในปี 56ไทยและตุรกีมีมูลค่าการค้าระหว่างกันทั้งสิ้น1,438.13ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.19% จากปีก่อนหน้า เป็นมูลค่าการส่งออก1,119.52ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า318.60ล้านเหรียญสหรัฐโดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับตุรกีคิดเป็นมูลค่า800.92ล้านเหรียญสหรัฐ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไทยเดินหน้าเอฟทีเอตุรกี

Posts related