ในปัจจุบันมีคำคำหนึ่งที่นิยมใช้กันในสังคมออนไลน์ครับ นั่นคือคำว่า ไวรอล  (Viral)โดยไวรอลจะหมายถึง พวกรูปภาพหรือวิดีโอที่เป็นที่นิยมผ่านการแชร์หรือส่งต่อกันจำนวนมากทางอินเทอร์เน็ตหรือทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะมีลักษณะเป็นการส่งต่อ-ของส่งต่อ-และส่งต่อ ที่แพร่ข้อมูลต่อไปอย่างรวดเร็วกว่าสมัยก่อนอย่างมีนัยสำคัญ เหมือนกับเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ติดมนุษย์จากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไวรอลวิดีโอในต่างประเทศก็อย่างเช่น คลิปกังนัมสไตล์ การเต้นฮาร์เล็มเชค ที่ทำให้คนเต้นตามกันไปทั่วโลกในระยะเวลาอันรวดเร็ว ในประเทศไทยเอง กระแสล่าสุดที่กลายเป็นไวรอลที่ถูกส่งต่อไปยังเพื่อนต่อเพื่อนจำนวนมากก็มีเช่นกันครับ และก็เกิดขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองปัจจุบันของไทยเราเลยไวรอลนั้นก็คือไวรอลของ รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม คนปัจจุบัน เรื่องราวของรัฐมนตรีท่านนี้น่าสนใจนะครับ อาจารย์ชัชชาติเป็นรุ่นพี่ของผมที่ วิศวะจุฬาฯ เป็นนักวิชาการมาก่อน และภายหลังก็ได้รับการทาบทามให้มาเป็นรัฐมนตรี สิ่งที่น่าสนใจก็คือ จากการที่เข้ามารับงานทางการเมืองโดยไม่ได้มีพื้นฐานเป็นนักการเมืองมาก่อน ไม่ได้มี ส.ส. และประชาชนหนุนหลังมากมายเหมือนกับรัฐมนตรีท่านอื่น ทำให้ในช่วงแรกถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่รู้จักมากที่สุด แต่เชื่อไหมครับ ปัจจุบันเขากลายเป็นรัฐมนตรีที่ประชาชนรู้จักมากที่สุดคนหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกสังคมออนไลน์ ซึ่งส่วนหนึ่งผมเชื่อว่ามาจากการประยุกต์ใช้ไวรอลมาร์เก็ตติ้ง ให้เข้ากับงานทางด้านการเมืองได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ ในโลกออนไลน์เขาเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “ชัชชาติฟีเวอร์” ครับ แรกเริ่มเดิมทีรัฐมนตรีหลายท่านก็มีเฟซบุ๊กอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้อาจารย์ชัชชาติทำไวรอลมาร์เก็ตติ้ง   ได้ดี ก็คือการพยายามเน้นการทำงานนำหน้าการเมือง เช่น เข้าไปดูปัญหาของรถไฟด้วยตนเองโดยไปนั่งรถไฟ (เก่า ๆ) ด้วยตัวเอง หรืออย่างเช่นไปลองนั่งรถเมล์เองเลยเพื่อให้รู้และเห็นว่าปัญหาการปล่อยรถเมล์อย่างไม่สม่ำเสมอเป็นอย่างไร และพอเห็นปัญหาก็ทำการคิด วิเคราะห์และเสนอทางแก้ แล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กตัวเอง แต่นั่นก็คงยังไม่น่าจะใช่ประเด็นที่ทำให้กลายเป็นไวรอลที่โด่งดังได้ขนาดนี้ครับ ประเด็นที่ทำให้เป็นไวรอลจริง ๆ น่าจะเป็น การที่อาจารย์ชัชชาติ เน้นการแต่งตัวที่ดูติดดินมาก ผิดกับลุคของรัฐมนตรี เช่น ใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น และใส่รองเท้ากีฬาวิ่งออกกำลังกายเหมือนประชาชนคนปกติ จนกระทั่งไปถึงเดินเท้าเปล่า ถือถุงกับข้าวไปใส่บาตรยามเช้า นี่เลยอาจเป็นเหตุผลทำให้เข้าถึงใจคน จนมีการแชร์ภาพของอาจารย์ชัชชาติ โดยทำการตัดต่อเปลี่ยนฉากพื้นหลังของภาพเป็นสถานที่อื่น เปลี่ยนชุดให้อาจารย์ชัชชาติเป็นฮีโร่บ้างก็มี บางคนก็ถึงกับแต่งตัวคอสเพลย์เลียนแบบ บางคนไปทำเป็นเกมหรือแม้แต่สติกเกอร์ในมือถือสมาร์ทโฟนเลยก็มี จนกระทั่งมีแฟนคลับตั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจ โดย   ใช้ชื่อว่า “ชัชชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” (เหตุเพราะอาจารย์เป็นคนชอบออกกำลังกาย เลยดูแข็งแรงเป็นพิเศษ) ไวรอลอันอื่นที่น่าสนใจก็ เช่น กรณีนักข่าวหล่อชาวญี่ปุ่น เอนามิ ไดจิโร่ ผู้สื่อข่าวช่องฟูจิทีวี ที่ยืนรายงานข่าวเลือกตั้งในไทยโดยใส่ชุดเกราะกันกระสุน จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ไวรอลเห็นภาพหนุ่มหล่อคนนี้และแชร์ภาพไปทั่วสังคมออนไลน์ ตลอดจนไปหาประวัตินักข่าวผู้นี้กันใหญ่ นักข่าวญี่ปุ่นคนนี้เป็นรุ่นน้องของผมที่มหาวิทยาลัยเคโอ ที่ญี่ปุ่นจะมีคำหนึ่งที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันดีก็คือ Keio Boy ซึ่งให้นัยในทางบวกว่าเป็นคนที่ฉลาด มากความสามารถ หน้าตาดีและมีฐานะ ซึ่งสาวญี่ปุ่นจะชื่นชมกันมาก ซึ่งจากเหตุ การณ์ไวรอลในไทยครั้งนี้ ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคำกล่าวเรื่อง Keio Boy จะเป็น   เรื่องจริง เห็นไหมครับว่าเทคโนโลยีทำให้โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปได้มากแค่ไหน การจะเผยแพร่ข้อมูลออกสู่สาธารณชนทั่วโลกไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็นอีกต่อไป แม้แต่คนธรรมดาอย่างคุณผู้อ่านก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น มองในมิติหนึ่งก็สะดวกดีนะครับแถมยังรวดเร็วและราคาถูกด้วย แต่หากมองอีกมิติก็น่ากลัวไม่ใช่น้อยหากถูกใช้ไปในทางที่ไม่ดี ดังนั้นพวกเราที่ถือดาบสองคมนี้แกว่งไปมาอยู่ ก็ต้องระวังกันหน่อยนะครับ อย่าให้คมดาบมันย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ ก่อนที่เราจะแชร์ส่งต่ออะไร ผมเชื่อว่าการคิด การวิเคราะห์ และการใช้วิจารณญาณของแต่ละปัจเจกบุคคลในการแยกแยะ เป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ. ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต chutisant.k@rsu.ac.th

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ไวรอลของรมต.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี – รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

Posts related