ดูเหมือนว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท. จะเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่ดูจะมีรายได้และกำไรที่ดีจากการพึ่งพา ตัวเองมากที่สุด ด้วยการมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล เพื่อการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจปัจจุบันให้อยู่รอดได้ วันนี้ ไปรษณีย์ไทยสามารถสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้ปีละกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เล่าว่า ไปรษณีย์ไทยได้พิสูจน์ตัวเองด้วยความสำเร็จมากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งนี้ หากไม่มีการวางแผนอนาคตที่ดี ก็ต้องเกิดปัญหาแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปรษณีย์ไทย 3 ปี กว่า จนใกล้ครบวาระที่จะมีการคัดเลือกผู้บริหารคนใหม่มาทำหน้าที่แทน ตนก็มั่นใจว่าคนใหม่จะนำพาไปรษณีย์ไทยก้าวไปยังทศวรรษหน้าได้อย่างแน่นอน สำหรับสิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารท่านใหม่ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปรษณีย์ไทยคนต่อไปนั้น ควรจะเป็นคนที่มองไปข้างหน้าและให้มากกว่าที่ตนมองอยู่ในขณะนี้ด้วย เพื่อจะนำพาพนักงานไปรษณีย์ไทย 22,000 คนก้าวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นเรื่องที่ผู้บริหารเบอร์ 1 ต้องถ่ายทอดนโยบาย ทิศทางให้บุคลากรทั้งหมดได้ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม วันนี้ ไปรษณีย์ไทยได้พิสูจน์ศักยภาพในการปรับตัว ความร่วมมือขององค์กรเพื่อเป้าหมายเดียวกัน จากที่เคยมีกำไร 200 ล้านบาทในปี 47 แต่ปี 56 ทำกำไรได้ถึง 1,250 ล้านบาท “ระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ แบรนด์ของไปรษณีย์ไทย โดยผลวิจัยยืนยันว่า ความเชื่อมั่นในแบรนด์สูงขึ้นถึง 88%” นางสาวอานุสรา เล่าว่า จากบริการต่าง ๆ ที่ทำขึ้น แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาไปรษณีย์ไทย จนกลายเป็นเครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งนอกจากส่งของแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังเป็นช่องทางให้คนไทยได้ขายของด้วย ด้วยความมุ่งมั่นในงานบริการเพื่อให้คนไทยได้รับ ส่งของตลอด 24 ชั่วโมง ปีนี้ ได้ร่วมมือกับเซเว่น อีเลฟเว่น ต่อยอดขีดความสามารถในบริการ “อีซี่แพ็ก” โดยลูกค้าสามารถส่งของได้ที่เซเว่นฯ ในขนาดกล่อง 3 กล่องให้เลือกและแพ็กเองง่าย ๆ เบื้องต้นจะเปิดบริการในเซเว่นฯ 24 สาขา และจะเพิ่มเป็น 60 สาขา เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนจะขยายสาขาทั่วประเทศ สำหรับรายได้ปีนี้ ตั้งไว้ที่ 20,647 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.38% โดยมีกำไรสุทธิประมาณ 1,700 ล้านบาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซโต การส่งพัสดุโดยเฉพาะอีเอ็มเอส (EMS) ปี 56 โตขึ้น 10% จากจำนวนการส่ง 82 ล้านชิ้นในปี 55 จนถึงปี 56 อยู่ที่ 91 ล้านชิ้น ส่วนผลการดำเนินงานในปี 56 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมทั้งสิ้น 19,391 ล้านบาท กำไรสุทธิ  1,250 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจสื่อสารครองรายได้สูงสุด 8,690 ล้านบาท ธุรกิจขนส่ง 8,150 ล้านบาท ธุรกิจค้าปลีกมีรายได้ 1,064.69 ล้านบาท ตามด้วยธุรกิจการเงิน 781.59 ล้านบาท สิ่งที่ไปรษณีย์ไทยต้องทำคือเน้นบุคลากรที่ มีคุณภาพ ยอมรับว่าการส่งของไม่ได้ 100% ดังนั้นบุคลากรต้องให้ความสำคัญกับของที่จะส่ง โดยคนไปรษณีย์ไทยต้อง รู้จริง รู้ใจ และจริงใจ. กัญณัฏฐ์ บุตรดี Kanyanat25@gmail.com

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ‘อานุสรา’ ชี้ ผู้บริหารใหม่ ต้องมองการณ์ไกล

Posts related