นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณายกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (ดิวตี้ฟรี โควตาฟรี) ตามนโยบายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ต้องการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยมีสินค้า 6,998 รายการ ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดในการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก (ดับปลิวทีโอ) ในวันที่ 3-6 ธ.ค.56 ที่อินโดนีเซีย ทั้งนี้ สินค้าที่จะลดภาษีดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ไทยมีความจำเป็นต้องนำเข้าเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบ แยกเป็นสินค้าเกษตร 1,594 รายการ เช่น สัตว์มีชีวิต เนื้อสัตว์ ปลาแช่เย็น พืชมีชีวิต มันสำปะหลัง แอปเปิล ข้าวสาลี ถั่วลิสง ไม้ไผ่ เมล็ดโกโก้ เป็นต้น ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม 5,771 รายการ เช่น สินแร่และหัวแร่ดีบุก เครื่องจักรสาน กระดาษ ด้าย ฝ้าย ผ้าทอ เพชรไม่ได้ตกแต่ง นิกเกิล อลูมิเนียม ตะกั่ว สังกะสี เป็นต้น “การลดภาษีให้กับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด จะมีประเทศที่ได้รับประโยชน์รวม 49 ประเทศ เป็นประเทศในทวีปแอฟริกา 34 ประเทศ และประเทศในเอเชีย 14 ประเทศ ลาตินอเมริกาและคาริบเบียน 1 ประเทศ” อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะลดภาษีนำเข้าให้กับประเทศพัฒนาน้อยที่สุดแล้ว แต่หากต่อไปพบว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากและผิดปกติจนกระทบต่อผู้ประกอบการภายในประเทศ ก็สามารถที่จะใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าได้ ซึ่งจะมีคณะกรรมการป้องกันผลกระทบเข้ามาดูแล ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธาน เมื่อช่วงเดือนก.ค.56 ได้เห็นชอบในหลักการให้มีการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือร่วมกัน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ได้ข้อสรุป ก่อนที่จะนำเรื่องเสนอ ครม. พิจารณา และนำไปประกาศในการประชุมรัฐมนตรีดับปลิวทีโอต่อไป สำหรับการลดภาษีและโควตาสินค้า 6,998 รายการ คิดเป็น 73.21% ของรายการสินค้าทั้งหมด 9,558 รายการ และการลดภาษี ส่วนใหญ่ไทยได้ลดภาษีให้กับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดอยู่แล้ว โดยเฉพาะบางประเทศในอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา และพม่า ที่จะได้ประโยชน์จากการลดภาษีในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม นายนิวัฒน์ธำรงมีกำหนดการที่จะเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีดับปลิวทีโอในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค.56 ที่เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นผู้ประกาศการลดภาษีสินค้าดังกล่าวต่อสมาชิกดับปลิวทีโอเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อไทยว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการค้าเสรี และสนับสนุนประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดให้เข้าสู่ระบบการค้าโลก
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พาณิชย์ชงครม.ลดภาษีนำเข้าเกือบ 7 พันรายการ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs