วันนี้(6 ม.ค.) นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์ด้านไอซีทีและผู้เชี่ยวชาญด้านบิ๊กดาต้า บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ธุรกิจจำนวนมากจากหลากหลายอุตสาหกรรมล้วนให้ความสนใจและเริ่มนำบิ๊กดาต้าเข้ามาใช้ในองค์กรกันมากขึ้นเนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนนั้นชัดเจนทั้งในด้านการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีศึกษาจากทั่วโลกในการนำบิ๊กดาต้ามาใช้ประโยชน์ในองค์กรมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการโครงข่ายและโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสหรัฐอเมริกาเริ่มเปิดให้บริการข้อมูลจากบิ๊กดาต้าแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจค้าปลีกสามารถเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละพื้นที่เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเลือกที่ตั้งเปิดร้านค้าสาขาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคนที่เดินผ่านถนนเส้นนั้นในแต่ละวันแบ่งเป็นอัตราส่วนอย่างไร ตามแต่ละช่วงของวัน เป็นชายหรือหญิงในจำนวนคนที่เดินผ่านนี้เป็นผู้อาศัยในเขตนั้นหรือเป็นนักช็อปร้านใดที่กลุ่มเป้าหมายเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด สำหรับด้านบริการสาธารณสุข กูเกิลได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข สหรัฐอเมริกา ในการใช้บิ๊กดาต้าเพื่อวิเคราะห์การแพร่ระบาดของเชื้อหวัดในแต่ละปีเพื่อหาทางป้องกัน ส่วนในอุตสาหกรรมกีฬาทีมบาสเก็ตบอลชั้นนำจาก NBA เช่น ดีทรอยต์พิสตัน ได้ใช้บิ๊กดาต้าเพื่อเข้าถึงแฟนคลับของทีมให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ฝ่ายการตลาดของทีมสามารถที่จะส่งโฆษณาและแนะนำบริการที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน ทั้งขณะที่มาชมเกมในสนามและนอกสนาม อีกหนึ่งตัวอย่างคือ Jack in the Box บริษัท ฟาสต์ฟู้ด ของสหรัฐอเมริกาและฟีนิกส์ซันส์ ทีมบาสเก็ตบอล NBAได้นำบิ๊กดาต้ามาใช้ในการติดตามประสิทธิภาพผลลัพธ์ของแคมเปญโปรโมชั่นของแฟนคลับที่ทำร่วมกันและปรับแผนการตลาดให้เหมาะสม ทั้งนี้ ด้วยปริมาณข้อมูลที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการคาดการณ์ว่าปริมาณข้อมูลจะเพิ่มสูงถึง 40 เซตตะไบต์ ภายในปี 2563 ดังนั้น ความสำคัญของบิ๊กดาต้าจะยิ่งเพิ่มขึ้นในฐานะแหล่งข้อมูลที่สำคัญของธุรกิจ โดยเมื่อปี 2555 ไอบีเอ็ม เอชพีและอีเอ็มซี 3 ยักษ์ใหญ่ผู้นำวงการมีรายได้จากสินค้าและบริการทางบิ๊กดาต้าทั่วโลกรวมกันมากกว่า 2,350 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจบิ๊กดาต้าจะยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆ เมื่ออุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ยานยนต์ การศึกษา และรัฐกิจเริ่มตื่นตัวและให้ความสนใจในเทคโนโลยีนี้มากขึ้น
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ฟรอสต์ ชี้ “บิ๊กดาต้า” ตัวแปรสำคัญเปิดโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs