นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด หรือเคทีซี เปิดเผยว่า ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ไม่เติบโตหรืออยู่ที่ 0% จากเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-15% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอ ตัวลงจากการสถานการณ์ทางการเมือง แต่บริษัทยังไม่ได้ปรับเป้าการเติบโตรายได้ปีนี้ตั้งไว้ 30% และกำไรโตประมาณ 20% ส่วนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 20% จากปี 56 ที่มียอดใช้จ่ายประมาณ 120,000 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าประชาชนเกิดความเคยชิน กับปัญหาการเมือง ดังนั้นเชื่อว่าผู้บริโภคยังมีการใช้จ่ายเหมือนเดิม และในอีก 5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นอันดับ 1 ผู้ให้บริการบัตรเครดิต ด้วยการมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20%สำหรับแผนงานในปีนี้ตั้งเป้าขยายฐานบัตรเครดิตเพิ่มอีก 400,000 ใบ จากฐานบัตรในปัจจุบัน 1.5 ล้านใบ โดยการทำตลาดจะต้องให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละกลุ่มตามช่วงอายุและรายได้ ซึ่งปีนี้จัดสรรงบประมาณทำตลาดไว้ 2,000 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลไม่ได้กังวลมากนัก แม้ว่าจะมีปัญหาหนี้ครัวเรือนหรือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะเอ็นพีแอลของบริษัทอยู่ที่ 2.2% ถือว่าต่ำกว่าระบบที่อยู่ในอัตราเฉลี่ย 2.3% และที่ผ่านมามีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้ที่ 5,090 ล้านบาท เกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท.กำหนดไว้ 3 เท่า เพื่อรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน นอกจากนี้มีแผนออกหุ้นกู้อีก 11,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระในไตรมาส 3 นี้ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาทน.ส.สุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย กล่าวว่า สินเชื่อบุคคลหรือบัตรกดเงินสดไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง เพราะประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดไม่เหมือนกับบัตรเครดิตที่รูดซื้อสินค้า ซึ่งยอดใช้จ่ายบัตรกดเงินสดในเดือนม.ค.อยู่ที่ 10,000 กว่าล้านบาท แต่เดือนก.พ.ต้องรอดูตัวเลขอีกครั้ง โดยปีนี้คาดว่าจะโต 15% จากพอร์ตสินเชื่อสิ้นปี 56 อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท ขณะที่ลูกค้าใหม่ในปีนี้ตั้งไว้ 130,000 ใบ จากฐานลูกค้าในปัจตจุบันอยู่ที่ 638,959 ใบ นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญาอาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารร่วมกับบริษัท ทิพยประกันภัยออกบัตรวีซ่าเดบิต ซึ่งตั้งเป้าฐานลูกค้าใหม่ไว้ที่ 120,000 ใบ โดยจะให้ความอุบัติเหตุส่วนบุคคลสูงสุด 1 ล้านบาท และค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 20,000 บาท และคุ้มครองจากการถูกโจรกรรมเงินที่ถอนจากเครื่องเอทีเอ็มสูงสุด 5,000 บาทต่อครั้ง คิดค่าทำบัตร 100 บาท และค่าธรรมเนียมบัตรรายปีๆละ 1,599 บาท เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง หรือที่เดินทางไปต่างประเทศ ส่วนเงินฝากปีนี้อยู่ที่ 250,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 190,000 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : เคทีซีมั่นใจโตสวนกระแสเศรษฐกิจซบ
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs