นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการสำนักงานโฮจิมินห์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจับตลาดดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มสตรีระดับเศรษฐีที่มีบุตรยากในประเทศเวียดนามเพื่อมาทำการรักษาเทคโนโลยีเจริญพันธ์(ทำกิฟต์) ในไทย เนื่องจากคนเวียดนามมั่นใจในความเป็นมืออาชีพและการบริการของแพทย์ไทยมาก บวกกับขณะนี้สังคมกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงต้องการเพิ่มกลุ่มคนในช่วงเยาวชนให้มากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้ไทยเร่งทำแผนจับกลุ่มตลาดและเร่งทำรายได้เพราะการทำต้องใช้จ่ายสูง โดยจะเน้นใช้แผนทั้งจับมือกับพันธมิตรกับโรงพยาบาลในไทยที่มีชื่อเสียง และ การจัดทำทัวร์บุญไหว้เพราะขอพรให้สมหวังในเรื่องการมีบุตร “ททท.ได้แผนส่งเสริมการตลาด จึงศักยภาพของกลุ่มเศรษฐีในกรุงโฮจิมินห์มีถึง 300,000 คนจากนักท่องเที่ยวที่มาไทยประมาณ 700,000 คน ซึ่งในนั้นก็มีกลุ่มผู้หญิงมีบุตรยากรวมเป็นสัดส่วนที่น่าสนใจจะทำตลาดได้อยู่ด้วย และส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาไทย เพราะใช้เวลาเดินทางมาไม่นาน แถมยังสามารถมาช็อปปิ้งต่อได้ด้วย” อย่างไรก็ตาม การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีผลกระทบทำให้การเดินทางของตลาดเวียดนามลดลง เนื่องจากกังวลว่าประกันภัยการเดินทางจะไม่ครอบคลุม และระหว่างนี้ต้องเร่งสร้างแรงจูงใจด้วยการจับมือกับ สายการบินเวียดนาม แอร์ไลนส์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ และเวียดเจ็ต แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์)รายใหญ่ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจมาไทยระหว่างเดือน ก.พ.-เม.ย.ให้เพิ่มมากขึ้น นายพงศธร เกษสำลี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ททท. กล่าวว่า ททท.เตรียมจัดทำแผนการตลาดหลักในปี 58แล้วโดยจะเน้นเริ่มให้ความสำคัญกับทำโครงการแบบเจาะตรงไปยังกลุ่มสินค้าหลักที่ต้องการประชาสัมพันธ์ แล้วให้หน่วยงานต่างๆ ใน ททท.ที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการในการส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยวร่วมกันให้ได้ผลยิ่งขึ้น ต่างจากเดิมที่มุ่งเน้นโครงการในรูปแบบที่ให้แต่ละหน่วยงานต่างจัดทำแผนตามภารกิจและสายงานของตัวเอง ทั้งนี้รูปแบบการทำงานลักษณะนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้เกิดประโยชน์ในการใช้งบประมาณสูงสุด และสอดรับกับเกณฑ์การประเมินผลรูปแบบใหม่ของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่กำหนดตัวชี้วัด (เคพีไอ) ให้หน่วยงานราชการจัดทำแผนดำเนินงานโดยอิงกับผลการวิจัยเป็นหลัก ซึ่ง ททท.เองมีกองงานวิจัยที่จัดทำผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวออกมาสม่ำเสมออยู่แล้ว ต่อไปจึงมอบหมายให้มีการหยิบยกหัวข้องานวิจัยเหล่านั้นมาต่อยอดเป็นแผนการตลาด ตามที่ สคร.กำหนดทิศทางไว้มากขึ้น “ในปีนี้ ททท.จะเริ่มจัดทำแผนโครงการนำร่องเพื่อเป็นตัวอย่างก่อนโดยเลือกวางกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวที่ชอบบริการทางการท่องเที่ยวในระดับสูงสุด(ลักชัวรี) และมอบหมายให้ ททท.สำนักงานโฮจิมินห์ เป็นผู้จัดทำแผนตลาดดังกล่าว และภายในปีนี้จะเห็นเป็นแผนเชิงปฏิบัติการ(แอคชั่นแพลน)เป็นโมเดลให้ใช้สำหรับภูมิภาคอาเซียน หรือหากสำนักงาน ททท.อื่นเห็นว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายของตนเอง จะได้นำรูปแบบไปใช้ได้ทันที และหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะได้ใช้วัดผลด้วยว่าจะทำให้เคพีไอขององค์กรเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ดึงนักท่องเที่ยวเวียดนามทำกิฟต์
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs