สำนักงานสถิติฯ เผยผลสำรวจการอ่านหนังสือของประชากรในประเทศไทย พบว่าวัยเด็กเป็นวัยที่มีการอ่านหนังสือสูงสุด อีกทั้ง อัตราการอ่านหนังสือปี 56 สูงกว่าปี 54 ระบุ หนังสือที่อ่านมากที่สุดคือหนังสือพิมพ์ คิดเป็นสัดส่วน 73.7% ส่วนตำราเรียนอยู่ที่ 29.5% นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่าผลการสํารวจการอ่านหนังสือของประชากร โดยเก็บรวบรวมข้อมูลในระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ค. 56 จากจำนวนครัวเรือนตัวอย่าง 55,920 ครัวเรือน พบประชากรอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป มีอัตราการอ่านหนังสือนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทำงาน 81.8% ผู้ชายมีอัตรา การอ่านหนังสือสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย 82.8% และ 80.8% ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจที่ผ่านมา ทั้งผู้ชายและผู้หญิงอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นมากกว่า 10.0% จากปี 54 อย่างไรก็ตาม การอ่านหนังสือของประชากรมีความแตกต่างกันตามวัย กลุ่มวัยเด็กมีอัตราการอ่านหนังสือสูงสุดถึง 95.1% รองลงมาคือ กลุ่มเยาวชน กลุ่มวัยทำงาน และต่ำสุดคือ กลุ่มวัยสูงอายุ 90.1% 83.1% และ 57.8% ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบอัตราการอ่าน พบว่า ในปี 56 ทุกกลุ่มวัยมีการอ่านเพิ่มขึ้นจากปี 54 ส่วนเด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 6 ขวบ) มีอัตราการอ่านหนังสือ 58.9% เด็กผู้หญิงมีอัตราการอ่านหนังสือสูงกว่าเด็กผู้ชายเล็กน้อย 60.5% และ 57.3% ตามลำดับ เด็กเล็กในกรุงเทพฯ มีอัตราการอ่านหนังสือสูงสุด 70.1% เด็กเล็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการอ่านหนังสือต่ำสุด 53.5% สำหรับประเภทของหนังสือที่ประชากรอายุ 6 ขวบขึ้นไป อ่านนอกเวลาเรียน/นอกเวลาทำงานมากที่สุด คือ หนังสือพิมพ์ 73.7% รองลงมาคือ วารสาร/เอกสารประเภทที่ออกเป็นประจำ 55.1% ตำรา/หนังสือ/เอกสารที่ให้ความรู้ 49.2% นิตยสาร (ร้อยละ45.6) และหนังสือ/เอกสารเกี่ยวกับคำสอนทางศาสนา 41.2% สำหรับนวนิยาย/การ์ตูน/หนังสืออ่านเล่น และแบบเรียน/ตำราเรียนตามหลักสูตรมีผู้อ่านน้อยกว่า 40.0% 38.5% และ 29.5% ตามลำดับ และหนังสือประเภทอื่นๆ มีผู้อ่านเพียง 5.4% ในส่วนของเนื้อหาสาระที่ผู้อ่านหนังสือชอบอ่านมากที่สุดคือ ข่าว 54.3% รองลงมาคือ สารคดี/ความรู้ทั่วไป บันเทิง ความรู้วิชาการ และคำสอนทางศาสนา 36.4% 32.2% 23.2% และ 13.4% ตามลำดับ ส่วนโฆษณาเนื้อหาสาระประเภทความคิดเห็น/วิเคราะห์ และอื่นๆ มีผู้อ่านเพียงเล็กน้อย “ส่วนข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการรณรงค์ให้คนรักการอ่านหนังสือ 5 อันดับแรก คือ หนังสือควรมีราคาถูกลง 39.0% ปลูกฝังให้รักการอ่านผ่าน พ่อแม่/ครอบครัว 26.3% ให้สถานศึกษารณรงค์ส่งเสริมการอ่าน และส่งเสริมให้มีห้องสมุด/ห้องสมุดเคลื่อนที่/มุมอ่านหนังสือในชุมชน/พื้นที่สาธารณะ 25.2% เท่ากัน และรูปเล่ม/เนื้อหาน่าสนใจหรือใช้ภาษาง่าย ๆ 23.2%” นายวิบูลย์ทัต กล่าว.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : พบวัยเด็กมีอัตราการอ่านหนังสือสูงสุด
Posts related
- ธุรกิจน้ำดื่มใสสะอาด เพราะชีวิตขาดน้ำไม่ได้!
- ธุรกิจเสื้อผ้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจส่งออกสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านดอกไม้กับความรัก ความยินดี และ ความสดชื่นของชีวิต
- ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่พัก ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- ธุรกิจร้านกาแฟ คุณคิดว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะมีสักกี่วันที่หยุดดื่ม? น่าลองขายนะ!
- ธุรกิจซักอบรีด รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจร้านเบเกอรี่ รูปแบบไหนดีที่สุด?
- ธุรกิจขายส่งสินค้า ดีไม?ดียังไง? ปัจจุบันมีกี่รูปแบบ?
- อาชีพเสริมรายได้เสริม เมื่อมีรายได้หลายทางย่อมดีกว่ารายได้ทางเดียว
- 10 อาชีพเสริมที่น่าสนใจ
- อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้แล้วจะรวยตอนไหน?
- ธุรกิจสปา ดีไม?ดียังไง?
- ธุรกิจคาร์แคร์ ดีไม?ดียังไง?
- 6 รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
- 5 Trendsของยุค2020ที่จะนำไปสู่ธุรกิจชั้นนำที่น่าสนใจ
- แบบทดสอบประเมินตัวคุณเป็นยังไงและควรจะทำธุรกิจแนวไหนดี
- ความแตกต่างระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับอาชีพอื่นๆ
- จะเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างไร
- 5 ขั้นตอนการเริ่มต้นเปิดร้านค้าออนไลน์
- เทคนิคในการเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ
- ทำไมต้องธุรกิจแฟรนไชส์ ดียังไง
- 5 เทคนิคควรรู้ก่อนตั้งชื่อธุรกิจออนไลน์
- 5 สิ่งที่ต้องห้ามเมื่่ออยากทำธุรกิจส่วนตัว
- 7 เทคนิคพื้นฐานสร้างธุรกิจSMEให้รอด
- จะเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวยังไงเริ่มจากไหนดี?
- ทำไมจะต้องทำธุรกิจส่วนตัว?
- ความรู้เบื้องต้นความหมายธุรกิจSMEs