ขณะที่เศรษฐกิจในระดับมหภาคกำลังขับเคลื่อนเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็กล้วนแต่มีความสำคัญไม่แพ้กันเพราะจะเป็นส่วนเสริมที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ มูลนิธิเอเชียร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยได้จัดการสัมมนาเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคในหัวข้อ“การปรับทัพเออีซี ให้สอดคล้องกับเอสเอ็มอี” หรือ “Making ASEAN Economic Community Work for SMEs” โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนาประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และเอสเอ็มอี และนักวิชาการรวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ   นางเวอโรนิค ซัลส์ -โลแซค ผู้อำนวยการอาวุโสโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ มูลนิธิเอเชีย  กล่าวว่า มูลนิธิเอเชียมีความตั้งใจในการส่งเสริมกิจกรรมเอสเอ็มอี ในภูมิภาคอาเซียนและการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อต่อเอสเอ็มอี ภายใต้กรอบของเออีซี ด้วยตระหนักดีว่าเอสเอ็มอีมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีสัดส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากถึงร้อยละ 90 ของผู้ประกอบการทั้งหมดและมีการจ้างงานกว่าร้อยละ 60 ของการจ้างงานรวมสร้างเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32-50 ของจีดีพี   “ที่ผ่านมาพบว่าในการกำหนดนโยบายของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอีนั้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีส่วนร่วมน้อยมาก ส่วนใหญ่จึงยังมีปัญหาการขาดเงินทุน ข้อมูลในการทำธุรกิจและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึงในปี  2558  นี้”  ด้าน นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในปีหน้านั้นมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีของประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การสัมมนาครั้งนี้จึงเน้นการเสริมความรู้ข้อมูล และประสบการณ์อันสำคัญต่อเอสเอ็มอีในการเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่เออีซี ทั้งในเชิงรุกในการไปทำธุรกิจทั้งในด้านการค้า การลงทุนในภูมิภาคอาเซียน และเชิงรับในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการเข้ามาของธุรกิจของประเทศสมาชิกโดยการสัมมนาประกอบด้วย 4 หัวข้อหลักได้แก่ 1)การขยายตัวการค้าภายใต้เออีซี  2) โอกาสการลงทุนในเออีซี 3) การพัฒนาเอสเอ็มอี เพื่อรองรับเออีซี และ 4) ประสบการณ์ของเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในอาเซียน “สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยการเปิดประชาคมอาเซียนถือเป็นความท้าทายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยควรเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้เพราะตลาดภายนอกอย่างเออีซีมีแนวโน้มสดใสและภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ในขณะที่ตลาดภายในประเทศได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ยังไม่มีความแน่นอนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรดูลู่ทางการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านหรือในอาเซียนให้มากขึ้นเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจในประเทศได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมที่ดี”  ด้าน ดร.ศกสีพนา ที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวปาฐกถาโดยมีสาระสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า โอกาสของเอสเอ็มอีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้นอยู่ที่มุมมอง โดยส่วนตัวมองในแง่บวกว่าเออีซีคือโอกาส หากเอสเอ็มอีสามารถจัดวางตำแหน่งตัวเองในบริบทของเออีซีสำหรับเอสเอ็มอีคือเรื่องของการนำไปใช้เป็นเรื่องการปฏิบัติซึ่งจะพบว่าตอนนี้แต่ละประเทศต่างพยายามกำหนดมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี(NBT)มากีดกันทางการค้า เช่น ในประเทศกัมพูชามี 14,000 รายการ ขณะที่ในประเทศลาวมีถึง 180,000 รายการ ซึ่งในอาเซียนก็ยังไม่มีฐานข้อมูลกลางที่จะรู้ได้ว่าในแต่ละประเทศมีมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีอะไรบ้าง   “ประเทศต่าง ๆ ควรร่วมมือกันทำฐานข้อมูลเพื่อให้ผู้ประกอบการของแต่ละประเทศสามารถมาเรียนรู้เตรียมความพร้อมในการเข้าไปทำธุรกิจได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอสเอ็มอีจะต้องศึกษาให้ละเอียด ต้องกำหนดกลยุทธ์ในการทำธุรกิจที่ชัดเจนและแนวทางปฏิบัติในข้อกำหนดต่าง ๆ เพราะในบริบทเออีซีสิ่งที่เอสเอ็มอีเผชิญจะไม่เหมือนกับบริษัทข้ามชาติใหญ่ ๆ ซึ่งมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจมากกว่า”  การเตรียมความพร้อมของเอสเอ็มอีของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนวิธีคิดอย่ากลัวการเปิดเออีซีต้องมองภาพใหญ่ที่เป็นโอกาสรออยู่ต้องมองว่าทำอย่างไรเอสเอ็มอีจะสามารถผนวกตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตของอาเซียนหรือของโลก ที่มีการเติบโตมากขึ้นได้ในอนาคตนั่นคือต้องให้ความสำคัญกับการเข้าเป็นหุ้นส่วนกับผู้ประกอบการหรือบริษัทใหญ่ ๆ ที่ดำเนินการถูกต้องในประเทศนั้น ๆ หรือการจับคู่ธุรกิจแทนการไปเข้าไปแข่งขันซึ่งทำได้ยาก วิธีการดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายระดับมหภาคได้ อย่างไรก็ตามหากเอสเอ็มอีมีการเตรียมความพร้อมที่ดี มีข้อมูล เข้าใจสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจและสิ่งที่จะทำให้เอสเอ็มอีอยู่รอดได้ในเออีซีคือ การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและครบครัน จะทำให้เอสเอ็มอีมีศักยภาพมีความคล่องตัวในการทำธุรกิจโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกปลาใหญ่กินในที่สุด และนี่คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้เอสเอ็มอีก้าวกระโดดหรือประสบความสำเร็จได้ในเออีซี.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : โอกาสเอสเอ็มอีในเออีซี

Posts related