shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

shoplri.com ธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม ธุรกิจsme

Archives for ข่าวการตลาด เศรษฐกิจ

สินเชื่อบุคคลพุ่งสวนเศรษฐกิจ มั่นใจแบงก์-เอกชน ‘เอาอยู่’

ณ วันนี้ กระแสของหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 50% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อ 5 ปีก่อน เป็น 80% ของจีดีพี ในปีนี้ ยังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และถกเถียงกันในสังคมไทยว่า เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ จนถึงขนาดที่ถกเถียงกันไปถึงคำนิยมของ “หนี้ครัวเรือน” ที่แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่ ? ต้องยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งของหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเพราะการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อบัตรกดเงินสด ที่ถือเป็นการยืมเงินอนาคตมาใช้สนองความต้องการ โดยคนไทยเริ่มรู้จักสินเชื่อประเภทนี้มาตั้งแต่ปี 55 และได้รับความนิยมมากขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งจนถึงเวลานี้ปรากฏว่ามียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 251,000 ล้านบาท และมียอดบัญชีสูงถึง 9.88 ล้านบัญชี “สุดาพร จันทร์วัฒนากุล” ในฐานะประธานชมรมธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บอกกับ “เดลินิวส์” ว่า แนวโน้มสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ ธุรกิจบัตรกดเงินสด จะขยายตัวในเลขสองหลักแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อีก 5-6 ปี แตกต่างจากสินเชื่อบัตรเครดิตที่เริ่มเห็นสัญญาณอิ่มตัว ขณะที่บัตรกดเงินสดกำลังได้รับความนิยม เพราะเงื่อนไขที่กำหนดให้ลูกค้ามีรายได้เริ่มต้น 8,000 บาท ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อประเภทนี้ได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มตลาดล่าง แม้ว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัตรเครดิตก็ตาม ทั้งนี้การเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นไม่ได้เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ แต่จะสวนทางกับเศรษฐกิจเพราะคนต้องการเงินสดในมือมากขึ้น หรืออาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง หรือเงินทุนหมุนเวียนที่ต้องนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ต้องนำเงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หนี้ครัวเรือนปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็มั่นใจว่าทุกฝ่าย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. บรรดานอนแบงก์ และสถาบันการเงินต่าง ๆ จะสามารถรองรับปัญหานี้ได้และไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจซ้ำรอยแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็พบว่าสินเชื่อบุคคลเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสียทั้งการปรับฐานเงินเดือนขั้นต่ำเป็น 10,000 บาท และตรวจสอบประวัติมากขึ้น หลังจากเริ่มเห็นปัญหา โดยมองว่าทั้งปี 56 นี้น่าจะมียอดปล่อยสินเชื่อรวม 278,000 ล้านบาท “สุดาพร” บอกว่า เวลานี้เริ่มเห็นสัญญาณการค้างชำระและการผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ 5,000-10,000 บาท เริ่มมีปัญหามากขึ้น และลูกค้าบางรายมีพฤติกรรมขอสินเชื่อหลายสถาบันการเงินเพื่อนำมาโปะหนี้หรือชำระหนี้อีกสถาบันหนึ่ง อย่างไรก็ดีในแง่ของบริษัท บัตรกรุงไทย นั้น ยืนยันว่า เวลานี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือน เพราะบริษัทได้คัดกรองลูกค้าที่่มีรายได้ขั้นต่ำ 10,000 บาทขึ้นไป รวมทั้งได้ตรวจข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า รายได้ต่อรายจ่ายในแต่ละเดือน หากพบว่าลูกค้ามีรายจ่ายสูงเกินกว่า 80% ของรายได้รวมทั้งหมดจะปฏิเสธการให้สินเชื่อทันที โดยยอดอนุมัติสินเชื่อในไตรมาส 3 ลดลงเหลือ 30% จากที่ไตรมาส 2 อนุมัติไป 33% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ๆ สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติด ตามในระยะต่อไป คือ ความไม่สงบทางการเมือง คดีเขาพระวิหาร พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งหากมีความรุนแรงเกิดขึ้นอาจส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ประชาชนไม่กล้าใช้จ่าย และอาจส่งผลให้หนี้เสียปรับเพิ่มขึ้น แต่หากทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เชื่อว่าการดำรงชีวิตประจำวันและภาพรวมทางเศรษฐกิจยังเติบโตได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล ก็ต้องขอฝากไว้ว่า ก่อนก่อหนี้ทุกครั้ง ลูกค้าต้องคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเองด้วย เพื่อที่จะไม่สร้างภาระให้กับตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้วหากปัญหาก่อหนี้หากภาระหนี้เกิดการหมักหมมต่อไปเรื่อย ๆ นั่นหมายความว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วยเช่นกัน !. ภัทราภรณ์ พลายเถื่อน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : สินเชื่อบุคคลพุ่งสวนเศรษฐกิจ มั่นใจแบงก์-เอกชน ‘เอาอยู่’

Posts related

 














ออมสินปรับเงื่อนไขสินเชื่อบุคคล

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเข้มงวดเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อบุคคลมากขึ้น เนื่องจากพบว่ามีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในกลุ่มคนบางกลุ่มจึงได้ปรับเงื่อนไขปล่อยสินเชื่อจากเดิมที่กำหนดวงเงินให้ถึง 30 เท่าของรายได้ ลดลงเหลือ 15-20 เท่าของรายได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น หลังจากเห็นว่าแนวโน้มหนี้ครัวเรือนเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้องการให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ในตลาดที่ธนาคารบางแห่งให้วงเงินปล่อยกู้เพียง 10 เท่าของรายได้ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนปรับตัวดีขึ้นอาจกลับมาใช้เงื่อนไขปล่อยกู้เดิม ทั้งนี้ในปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 55% หรือคิดเป็นวงเงิน 700,000-800,000 ล้านบาท จากพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มการเติบโตอยู่ในระดับที่เข้มแข็งจึงไม่จำเป็นต้องมีการปรับสัดส่วนพอร์ตใหม่ ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 1.3% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.1% สำหรับเรื่องการออมนั้นเห็นว่า พนักงานที่มีรายได้ประจำเริ่มมีการออมที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่เอื้ออำนวย รวมถึงได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้น หากสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น คนมีรายได้มากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้คนไทยกลับมาออมเหมือนเดิม ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงนี้จะยังทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบันที่ 2.50% ขณะที่เงินฝากเชื่อว่าการแข่งขันยังรุนแรง เพราะส่วนใหญ่มีเป้าหมายระดมเงินฝากเพื่อมาปล่อยสินเชื่อรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจ โดยปีนี้ตั้งเป้าเงินฝากไว้ที่ 120,000 ล้านบาท หรือ เติบโต 7-7.5% ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีเงินฝากอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงมั่นใจว่าสิ้นปียอดเงินฝากจะอยู่ที่ 130,000-140,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ หรือขยายตัว 10-20% ขณะที่สินเชื่อเติบโตที่ระดับ 7-7.5% ด้านการปล่อยสินเชื่อในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ 2 ล้านล้านบาทนั้น คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะการลงทุนเป็นการทยอยกู้ 7 ปี โดยเฉลี่ยปีละ200,000-300,000 ล้านบาท และที่ผ่านมาธนาคารฯได้ปล่อยสินเชื่อให้โครงการรัฐเฉลี่ยปีละ 100,000 ล้านบาทอยู่แล้ว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ออมสินปรับเงื่อนไขสินเชื่อบุคคล

กรอ.สั่งศึกษารถไฟเลียบอันดามันเพิ่ม 3 เส้นทาง

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ. ภูมิภาค) ที่จังหวัดลพบุรี ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมศึกษาโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายอันดามัน ซึ่งเป็นทางรถไฟสายใหม่เพื่อการท่องเที่ยว หลังจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาเส้นทางรถไฟสายสุราษฏร์ธานี-พังงา-ภูเก็ต ซึ่งเชื่อมระหว่างอ่าวไทยและทะเลอันดามันแล้ว แต่ยังไม่ครอบคลุม จึงจำเป็นต้องสร้างเส้นทางรถไฟเพิ่มเติมอีก 3 เส้นทาง คือ ระนอง-สุราษฏร์ธานี ,พังงา-กระบี่ และกระบี่-ตรัง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวจากกระบี่และภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวใกล้เคียง และสร้างรายได้ให้ชุมชนด้วย ขณะเดียวกันในที่ประชุมภาคเอกชนได้เสนอปัญหาเรื่องโรคกุ้งตายด่วน ทำให้กระทบต่อภาคการส่งออกอาหารทะเลไทย ทำให้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปดูแลและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ หรือเป็น “มิสเตอร์กุ้ง” ด้วย นายธีรัตถ์ กล่าวว่า นายกฯยังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการปรับขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้เป็นแบบเบ็ดเสร็จ (วัน สต็อป เซอร์วิส) ,ให้ปรับอัตราส่วนเพิ่มให้กับโรงไฟฟ้าชุมชนจากพลังงานทดแทน ขนาดไม่เกิน 1 เมกกะวัตต์ ,โครงการคูปองนวัตกรรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของเอสเอ็มอีไทย สู่ประชาคมอาเซียนระยะที่2 ,ให้เจรจาขยายขอบเขตความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าไอทีของประเทศไทย และให้พิจารณากฎกระทรวงกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทำงานด้วย

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กรอ.สั่งศึกษารถไฟเลียบอันดามันเพิ่ม 3 เส้นทาง

Page 1478 of 1552:« First« 1475 1476 1477 1478 1479 1480 1481 »Last »
Home Webmail Password Help File Manager Logout Edit a file